ผู้การราชบุรี เดือดสั่งตำรวจ 3 โรงพัก ไล่ล่า "ตั้ม" โจรแสบลักทรัพย์โชกโชน 20 คดี ก่อเหตุโชกโชน 2 อำเภอ 3 พื้นที่ ซ้ำขณะก่อเหตุยังใช้ปืนและหนังสติ๊กยิงสุนัขจนบาดเจ็บสาหัสปางตาย
วันที่ 26 ต.ค. 67 พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ได้มีคำสั่งเร่งด่วนให้ พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม, พ.ต.ท.สมบัติ ครุฑธา รอง ผกก. และ รรท. ผกก. สภ.เขาดิน, พ.ต.ท.ศิริสุข คำสุข สว.กองกำกับสืบสวน ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.ท.มานพ น้ำประสานไทย รอง ผกก.สส.สภ.บ้านโป่ง และ พ.ต.ท.พิษณุ เชิดโฉม สว.สส.สภ.บ้านโป่ง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทั้ง อ.โพธาราม และ อ.บ้านโป่ง ร่วมติดตามจับกุมตัวโจรแสบ ที่ก่อเหตุคดีลักทรัพย์ประเภท หม้อแปลงไฟฟ้า และทรัพย์สินในเคหะสถานและชุมชน
โดยก่อเหตุใน 2 อำเภอ 3 ท้องที่ ได้แก่ สภ.โพธาราม, สภ.เขาดิน และ สภ.บ้านโป่ง รวม 20 คดี สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งยังมีพฤติกรรมวางแผนก่อเหตุโชกโชน ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย โดยทาง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี มีคำสั่งต้องติดตามจับกุมตัวให้ได้โดยด่วน
จนล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 25 ต.ค. 67 เวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธาราม, สภ.เขาดิน และ สภ.บ้านโป่ง และ กองกำกับสืบสวน ภ.จว.ราชบุรี ได้ติดตามและเข้าจับกุมตัว นายภมร หรือ ตั้ม อายุ 37 ปี ชาวอำเภอบ้านโป่ง ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดราชบุรี ที่ 450/2567 ลงวันที่ 25 ต.ค. 67 ที่ก่อเหตุลักทรัพย์และหม้อแปลงไฟฟ้าในพื้นที่ สภ.โพธาราม, สภ.เขาดิน และ สภ.บ้านโป่ง รวม 20 คดี ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ม.3 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พร้อมของกลางหลายรายการ เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ, เงินสดกว่า 100,000 บาท และขดลวดทองแดงที่งัดมาจากหม้อแปลงไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์ในการก่อเหตุลักทรัพย์อีกหลายรายการ
...
เบื้องต้น นายภมร ได้ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา แต่ยืนยันว่าก่อเหตุเพียงลำพังไม่มีผู้ร่วมก่อเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุและทรัพย์ที่ลักไป ซึ่งเป็นหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ไม่สามารถจะก่อเหตุเพียงคนเดียวได้ จึงนำตัวมาสอบสวนอย่างละเอียดที่ สภ.เขาดิน เพื่อขยายผล
โดยผู้ต้องหายังรับสารภาพว่า ได้แอบลักหม้อแปลงไฟฟ้าตามโรงงานเก่าและโรงงานร้าง และตามแหล่งชุมชน ซึ่งจะนำปืนบีบีกันที่ลักทรัพย์มา พร้อมหนังสติ๊กไปก่อเหตุทุกครั้ง เพื่อใช้ยิงสุนัขที่ทางเจ้าของทรัพย์เลี้ยงไว้เฝ้าทรัพย์สิน ก่อนจะเข้าไปขโมยลักหม้อแปลงไฟฟ้ามาทุบเอาขดลวดทองแดงข้างใน นำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม ก่อนนำเงินไปใช้หนี้พนันและเล่นพนันออนไลน์
ล่าสุดได้เข้าไปก่อเหตุในโรงงานในพื้นที่ ต.ท่าชุมพล อ.โพธาราม โดยได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดกว่า 400,000 บาท จึงนำเงินไปซื้อรถยนต์กระบะในราคา 149,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือนำไปเล่นพนันออนไลน์จนเหลือเงินสดประมาณกว่า 100,000 บาท ก่อนจะมาถูกตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงนำตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลจังหวัดราชบุรี ในข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน, บุกรุกเคหสถานโดยไม่มีเหตุสมควร, มีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเตรียมขยายผลเข้าตรวจสอบโรงรับซื้อของเก่าในพื้นที่ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม ต่อไป
พ.ต.ท.สมบัติ ครุฑธา รอง ผกก. และ รรท. ผกก.สภ.เขาดิน กล่าวว่า หลังได้รับคำสั่งเร่งด่วนจากทาง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี สภ.โพธาราม, สภ.เขาดิน และ สภ.บ้านโป่ง จึงได้ออกติดตามและสืบทราบว่า ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ตามหมายจับของศาลจังหวัดราชบุรี อยู่ที่บ้านใน ต.คลองตาคต จึงเข้าร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักดังกล่าว ซึ่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้และนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เขาดิน
หลังจากสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหามีอาชีพขับรถแบกโฮ และมีพฤติกรรมลักทรัพย์ตามโรงงานที่เก่าและร้าง ตลอดจนแหล่งชุมชน โดยจะขโมยสายไฟ ทองแดง หม้อแปลงไฟ รวมถึงทรัพย์สินมีค่าต่างๆ แล้วนำไปขายต่อที่ร้านรับซื้อของเก่าในเขต ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม เนื่องจากเป็นร้านรับซื้อของเก่าโดยไม่ต้องแสดงบัตรประชาชน ก่อนจะนำเงินไปใช้หนี้พนันและเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งหลังก่อเหตุล่าสุดได้เงินสดไปกว่า 4 แสนบาท จึงนำเงินไปซื้อรถยนต์กระบะและเล่นพนัน
โดยทุกครั้งที่ก่อเหตุผู้ต้องหาจะใส่ถุงมือ สวมหมวกไหมพรม และพกปืนบีบีกันและหนังสติ๊ก เอาไว้ไปยิงสุนัขที่อยู่ในโรงงานที่จะก่อเหตุ จนสุนัขได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งใน สภ.เขาดิน
...
จากการตรวจสอบพยานหลักฐานพบว่า ก่อเหตุลักทรัพย์หลายคดี ทั้งยังก่อเหตุในลักษณะนี้กับพื้นที่ใกล้เคียงอีกหลายคดีรวมกว่า 20 คดี ซึ่งผู้ต้องหายืนยันว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว แต่ทางจนท.ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ว่าจะลงมือลักทรัพย์คนเดียว เนื่องจากทรัพย์ที่ผู้ต้องหาลักไปส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เพื่อนำไปรื้อเอาขดลวดทองแดงไปขาย จึงต้องมีการติดตามและขยายผลต่อไป และคาดว่าผู้ต้องหาอาจมีการก่อเหตุอีกหลายคดี จึงอยากประชาสัมพันธ์ถึงผู้เสียหายที่โดนผู้ต้องหาคนดังกล่าวลักทรัพย์สินไป สามารถมาติดต่อแจ้งความเพิ่มเติมได้ สภ.เขาดิน หรือติดต่อที่สภ.ใกล้บ้าน เพื่อจะได้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาต่อไป
...
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายภมร หรือ ตั้ม ผู้ต้องหา โดยเจ้าตัวบอกว่า ตนก่อเหตุลักทรัพย์จริง โดยจะเลือกก่อเหตุตามโรงงานหรือสถานประกอบการที่ร้างและเก่า โดยจะเน้นขโมยพวกสายไฟ ทองแดง นำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าใน ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม ซึ่งเป็นร้านที่ไม่เช็คบัตรประชาชน ซึ่งเคยนำทองแดงไปขายได้เงินมา 1,500 บาท จนล่าสุดลักทรัพย์เป็นเงินสดกว่า 4 แสนบาท ได้นำเงินไปซื้อรถกระบะ 1 คัน และนำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ จนเหลือเงินประมาณแสนกว่าบาท ก่อนจะมาถูกจับกุมตัว ซึ่งตนก่อเหตุเพียงคนเดียว ไม่ได้มีการวางแผนไว้ก่อน เห็นสบโอกาสก็จะลงมือก่อเหตุทันที หลังก่อเหตุจะนำถุงมือและหมวกไหมพรมถอดโยนทิ้งข้างทาง
"ตนยอมรับตนติดพนันออนไลน์จนเสียคน จากมีอาชีพขับรถแบ็กโฮได้เงินวันละประมาณ 500 บาท แต่หลังติดพนันออนไลน์จึงทำให้เป็นหนี้ จึงตัดสินใจก่อเหตุลักทรัพย์ ส่วนสุนัขที่ตนใช้ปืนบีบีกันและหนังสติ๊กยิงก่อนลงมือก่อเหตุ ตนไม่ได้หมายทำให้สุนัขเสียชีวิต เพียงต้องการไล่สุนัขไปเท่านั้น ตนอยากจะขอโทษเจ้าของทรัพย์และขอยอมรับผิดในสิ่งที่ตนก่อขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ถ้าตนพ้นโทษออกมาจะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี เพื่อหาเงินเลี้ยงลูกเล็กและครอบครัว ไม่ลักขโมยอีกแล้ว" นายภมร หรือ ตั้ม ผู้ต้องหา กล่าว