เศรษฐินีหมื่นล้าน คู่กรณีของทนายดัง เดินทางถึงเมืองไทยแล้ว ทนายเผยยังไม่เข้าแจ้งกองปราบฯ ยันสัญญาร่วมทำธุรกิจโปรแกรมสลากออนไลน์นั้นมีจริง

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถาม นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย นักธุรกิจสาวหมื่นล้าน ที่แจ้งจับทนายดังคดีฉ้อโกงเงินจำนวน 71 ล้านบาท

โดยทนายสมชาติ เปิดเผยว่า วันนี้ผู้เสียหายจะยังไม่เดินทางไปที่กองปราบฯ ส่วนจะมาในวันพรุ่งนี้ (27 ต.ค.) หรือไม่นั้น ยังไม่ทราบรายละเอียด ต้องรอลูกความของตนประสานมาอีกครั้ง ส่วนเรื่องการโอนคดีมาที่ทางกองปราบฯ นั้น เป็นความประสงค์ของ น.ส.จตุพรเอง ซึ่งอาจมองว่าตำรวจในพื้นที่อาจมีเครื่องมือต่าง ๆ ไม่พร้อม กลัวว่าจะทำคดีล่าช้า เพราะคู่กรณีเป็นทนายความชื่อดัง กระบวนการต่าง ๆ น่าจะใช้เวลานาน จึงตัดสินใจขอโอนมาให้กองปราบทำคดีนี้

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ทนายคนดังหรือคู่กรณีได้ติดต่อสอบถามหรือเจรจาหรือไม่ ทนายสมชาติ กล่าวว่า ยังไม่มีใครติดต่อผ่านตนมา ส่วนจะติดต่อไปหาเลขาของ น.ส.จตุพร หรือไม่นั้น ขอยืนยันว่าถ้าเป็นในส่วนของรูปคดีจะต้องติดต่อผ่านทางตนเท่านั้น

ส่วนประเด็นเรื่องเงินจำนวน 71 ล้านบาท ที่ทนายคนดังอ้างว่า น.ส.จตุพร มอบให้มาด้วยความเสน่หานั้น ทนายสมชาติ เปิดเผยว่า ตนตอบได้แค่ว่าเป็นไปตามหลักฐานที่แจ้งความไว้แค่นั้น ส่วนจะเป็นอย่างไรก็เป็นการต่อสู้ของเขา ตนและลูกความจะยึดตามหลักฐานเอกสารที่มี

ส่วนเอกสารการทำสัญญาร่วมทำธุรกิจโปรแกรมสลากออนไลน์มีจริงหรือไม่ ทนายสมชาติ ยืนยันว่า มีจริงแน่นอน และมีการลงนามโดยชื่อของผู้เสียหายคือ น.ส.จตุพร และคู่สัญญา แต่ไม่มีชื่อของผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในสัญญา โดยมีชื่อของบุคคลใกล้ชิดที่มาเซ็นชื่อเป็นพยาน ซึ่งยืนยันว่าเอกสารฉบับนี้มีผลทางกฎหมายและเป็นหลักฐานในคดีนี้ได้อย่างแน่นอน

...

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเซ็นสัญญาในวันทำโปรแกรมสลากออนไลน์นั้นมีการบันทึกภาพหรือหลักฐานไว้หรือไม่ ทนายสมชาติ กล่าวว่า มีแต่ใบเปย์อินที่เป็นหลักฐานทางธนาคาร หรือหลักฐานการโอนเงินที่ปรากฏอยู่ตามสื่อในตอนนี้ รวมทั้งในขณะนี้ตัวของ น.ส.จตุพร และสามีได้เดินทางมาถึงที่ประเทศไทยเรียบร้อยแล้วด้วย

ด้าน พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3.บก.ป. เปิดเผยว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง ได้โอนสำนวนมาให้กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้ดำเนินการแล้วนั้น ขั้นตอนอยู่ที่พนักงานสอบสวนได้มีการเชิญผู้เสียหายให้เข้ามาให้ปากคำแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานผู้เสียหายว่าจะสะดวกเข้ามาให้ปากคำวันไหน ส่วนถ้าผู้เสียหายจะแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพื่อเอาผิดกับผู้ถูกกล่าวหา พนักงานสอบสวนจะต้องมาดูสำนวนและหลักฐานต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อน เพราะต้องทำไปตามเป็นขั้นตอนของกฎหมาย.