ทนายบอสพอล ยันมีหลักฐาน เป็นพยานบุคคล ที่ยืนยันได้ว่า "นักร้องเรียน ก." รีด 10 ล้าน ก่อนมาขอเงินสดอีก 4 แสน ยันที่ให้เพราะแค่ไม่อยากมีปัญหา ขู่ฟ้อง สคบ. หากเพิกถอนใบอนุญาตตอนนี้
วันที่ 21 ต.ค. 67 จากกรณี นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้บริหารบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด เดินทางเข้ามาเยี่ยมลูกความที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 15.15 น. นายวิฑูรย์ เผยภายหลังเข้าเยี่ยมกลุ่มผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ป ว่า ตนยังไม่มีโอกาสได้เยี่ยม "บอสพอล" เนื่องด้วยติดปัญหาทางเอกสาร จึงได้ข้ามไปเยี่ยม บอสปัน น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง จุดประสงค์ที่ตนตั้งใจเข้าไปพบบอสพอลในวันนี้ เพื่อหารือเรื่องงานของบริษัท และคดีความ แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ ในวันนี้ตนได้ฝากให้ทนายความของบอสปีเตอร์ นายกลด เศรษฐนันท์ เป็นธุระแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างตนกับบอสพอล ซึ่งขณะนี้ทนายความของทุกผู้ต้องหา รวมทั้งบอสดารา ผนึกรวมเป็นทีมเดียวกันแล้ว เพื่อจะได้ประสานข้อมูลทางคดี
โดยเรื่องหลักขณะนี้ นอกจากแนวทางต่อสู้ทางคดี ทีมทนายจะช่วยกันพิจารณาสภาพจิตใจของลูกความตนเองว่าเป็นอย่างไร อยู่กันได้หรือไม่ ส่วนของบอสพอลยังแข็งแรงดี พูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มตามปกติ ไม่น่ากังวล แต่บอสวิน นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะป่วยเป็นโรคมะเร็งต้องได้รับการรักษา ทนายจึงต้องหาทางขอประกันตัวออกมาให้ได้ก่อน ส่วนการฝากข้อความถึงคนในครอบครัว ทนายความแต่ละท่านจะนำข้อความของแต่ละคนไปพูดคุยกับแต่ละครอบครัวเอง
ทั้งนี้ กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจาก 2 ข้อหาหลักคือ ฉ้อโกงประชาชนและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทางทนายได้ทำความเข้าใจกับลูกความตนเองไปแล้วว่า ให้ต่อสู้ในส่วนข้อหาหลักให้จบ ถ้าข้อหาหลักผ่านไปได้ ข้อหาอื่นแม้จะมีโทษหนักกว่าก็จะผ่านไปได้เช่นกัน ทำให้ขณะนี้กลุ่มลูกความไม่ได้กังวลมากนัก ซึ่งทั้งหมดไม่ได้กำชับให้ทนายความทำอะไรเพิ่มเติมเป็นพิเศษ นอกจากเตรียมพยานหลักฐานให้ดี
...
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ทางบริษัทขายสินค้าให้ลูกค้า ต้องแสดงหลักฐานว่ามีการซื้อขายจริง ส่งมอบสินค้าจริง มีเอกสารชัดเจน จากนี้ต้องแล้วแต่ดุลยพินิจของศาลว่าจะมองอย่างไร ส่วนที่สังคมมองว่า มีการระดมชวนคนมาลงทุน ตนมองว่าเป็นการให้คนเข้ามาเปิดบิลสินค้ามากกว่า สำหรับมาตรการเยียวยาของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปฯ ได้เปิดให้ประชาชนเข้ามาลงทะเบียนเป็นผู้เสียหายได้จนถึงวันที่ 31 ต.ค.นี้ จากนั้นจะปิดให้ลงทะเบียน เพื่อเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่า ใครคือผู้เสียหายที่จะเยียวยาได้หรือไม่ได้ แต่ทั้งนี้ต้องเรียนว่า ขณะนี้บัญชีของบริษัทถูกอายัดอยู่ แต่ทางบริษัทจะจัดเก็บข้อมูลนี้ไว้เพื่อให้ทราบว่าเราจะเยียวยาใครบ้าง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจยังไม่มีการประสานผ่านตนเข้ามาเพื่อที่จะขอคุยกับผู้ต้องหา ส่วนกรณีที่มีบุคคลซึ่งอ้างว่าเป็นพยานรู้เห็นในเหตุการณ์ต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวตามสื่อ ทางกลุ่มผู้ต้องหาไม่ได้มีความกังวล ส่วนเรื่องคลิปเสียงระหว่างบอสพอล กับผู้ที่เรียกรับประโยชน์ ไม่ถือว่าเป็นคุณและเป็นโทษต่อผู้ต้องหา
นายวิฑูรย์ ยังกล่าวถึง กรณีมีนักร้องเรียนตบทรัพย์บอสพอล 10 ล้านบาท ว่า บุคคลดังกล่าวคือนักร้องเรียนผู้หญิง "อักษรย่อ ก." ก่อนจะกล่าวว่า "รู้กันอยู่แล้ว ไปเช็กก็รู้ว่าใคร" ขณะเดียวกันตนทราบรายละเอียดเรื่องนี้ดี พร้อมมีพยานบุคคลยืนยัน โดยจ่ายไป 10 ล้านบาท เป็นก้อนเดียว และจ่ายก้อนสุดท้าย 4 แสนบาทเป็นเงินสด ช่วงที่ตบทรัพย์เกิดขึ้นช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งจำเดือนชัดเจนไม่ได้ แต่ยืนยันว่า จ่ายไป 10 ล้านบาทเป็นก้อนเดียว เพราะไม่มีใครเขาแบ่งจ่ายหรอก วงการตบทรัพย์เขาจ่ายก้อนเดียวทั้งนั้น แต่ก็มีมาขอเพิ่มอีก 4 แสนบาทเป็นเงินสด ซึ่งก้อนสุดท้ายนี้อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการเรื่องเอกสาร ค่าปริ้นท์งาน ค่าถ่ายเอกสาร ค่าเหนื่อย ยืนยันว่ามีคลิปเสียงดังกล่าวจริง
สำหรับนักร้องเรียนหญิงคนนี้ มีคนแนะนำ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร ส่วนมาตบทรัพย์นั้น เขาอ้างว่าจะไปร้อง บก.ปคบ. ว่าธุรกิจดังกล่าวเป็นการขายตรง หรือแชร์ลูกโซ่อะไรทำนองนี้
เมื่อถามว่านักร้องเรียนหญิง คนดังกล่าวมีการข่มขู่บอสอย่างไรบ้าง นายวิฑูรย์ กล่าวว่า "ตอนนั้นผมไปฉี่ก่อน จึงไม่รู้" ก่อนจะเล่าว่าพฤติการณ์ตบทรัพย์เป็นแบบนักร้องทั่วไป มีการมาขู่ว่า "คุณไม่อยากเดือดร้อนใช่ไหม ไม่งั้นเอามา"
เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าเรามีพฤติกรรมแบบนี้จริงหรือ ทนายความ กล่าวว่า ไม่ใช่แบบนั้น แต่บางทีคนทำธุรกิจไม่ใช่คนแข็งแกร่ง อย่างลูกความตนบางรายเขาแข็งแกร่ง หากมีการรีดเอาทรัพย์เท่าไรก็ไม่จ่าย แต่บางรายเขาไม่อยากมีปัญหา เพราะอาจกระทบกับธุรกิจได้ ทั้งนี้ เหตุใดบอสพอลถึงกลัวนักร้องท่านนี้ ทนายความ กล่าวว่า ไม่ใช่แบบนั้น แต่คนเราทำธุรกิจ ไม่อยากมีปัญหาขึ้นโรงขึ้นศาล หากมันจบได้ก็อยากจบมากกว่า
เมื่อถามว่า มีนักร้องคนอื่นนอกจากนักร้องเรียนหญิงคนนี้หรือไม่ ทนายความ หัวเราะก่อนกล่าวว่า "เดี๋ยวมันจะลาม บอกไม่ได้" ก่อนย้ำว่าไม่ใช่นักการเมือง เพราะนักการเมืองเขาไม่ค่อยยุ่ง ขณะเดียวกันตนมีข้อมูลเพียงเท่านี้ ไม่รู้ว่ามีนักร้องท่านอื่นมาตบทรัพย์มากกว่า 10 ล้านหรือไม่ แต่ที่มีข้อมูลตอนนี้ "นักร้อง ก." ตบทรัพย์มากที่สุด ส่วนที่เหลือรายละเอียดอยู่กับตำรวจ
เมื่อถามว่า ถ้าระหว่างนี้ สคบ. เพิกถอนใบอนุญาตจะเป็นอะไรไหม ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา บอสพอลยังให้การ สคบ. ไม่จบ แต่ทางตำรวจ บก.ปคบ. เข้ามาจับเสียก่อน ซึ่งตรงนี้ยังต้องให้การเพิ่ม ถ้าวันนี้ยกเลิกใบอนุญาตตลาดตรงของบริษัทฯ ตนฟ้องแน่นอน เพราะตามกฎหมาย บอสพอลยังให้การไม่จบ โดยทางบริษัทต้องให้ปากคำจนเสร็จสิ้นก่อน ถึงเริ่มจะพิจารณาเพิกถอนได้ ต่อมาถ้าดูแล้วน้ำหนักของการร้องเรียนมีมากกว่าสิ่งที่ทางเราชี้แจงจะเพิกถอน ก็สามารถทำได้ตามขั้นตอน แต่ถ้าเกิดวันนี้มาบอกว่าไม่ฟังข้อมูลเพิ่มเติมและตัดตรงนี้และเพิกถอนเลย มีเรื่องกันแน่ โดยจะมีการฟ้องตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
...
เมื่อถามว่าเป็นการข่มขู่หรือไม่ ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า ไม่ได้ข่มขู่ แต่เป็นไปตามกฎหมาย โดยตอนนี้ทาง สคบ. ยังไม่ได้มีการประสานเข้ามาขอข้อมูลเพิ่มเติม