กรมราชทัณฑ์ รับ 17 บอสดิไอคอนฯ ทำประวัติ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ แต่ยังไม่ตัดผม ก่อนแยกคุมขังไม่ให้อยู่เป็นกลุ่มใหญ่ โดยให้อยู่ในแดนกักโรค 5 วัน ก่อนย้ายสู่แดนในเรือนจำ
วันที่ 17 ตุลาคม 2567 จากกรณีพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ควบคุมตัวผู้ต้องหาระดับผู้บริหารบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัดจำนวน 17 ราย ได้แก่ 1.นายวรัตน์พล นายเชษฐ์ณภัฎ อภิพัฒนกานต์ (บอสทอมมี่) 2.นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ (บอสหมอเอก) 3.น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ (บอสสวย) 4.นายกันต์ กันตถาวร (บอสกันต์) 5.น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (บอสมิน) 6.นายยุรนันท์ ภมรมนตรี (บอสแซม) 7.นายกลด เศรษฐนันท์ (บอสปีเตอร์) 8.นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา (บอสโอม) 9.น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสโซดา) 10.นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ (บอสวิน) 11.น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ (บอสแม่หญิง) 12.นายจิระวัฒน์ แสงภักดี (โค้ชแล็ป) 13.นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ (บอสจอย) 14.นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ (บอสอ๊อฟ) 15.น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน) 16.นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ (บอสป๊อป) และ 17.น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา (บอสอูมมี่) ตามหมายจับศาลอาญารัชดา
ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" ไปฝากขังศาลอาญารัชดาฯ ผัดแรก และศาลไม่ให้ประกันตัวทั้งหมด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง แต่ยังเหลืออีก 1 ราย คือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) ที่ยังสอบสวนไม่เสร็จ เนื่องจากผู้ต้องหาและทนายความประสงค์ที่จะให้รายละเอียดทางคดีเพิ่มเติม โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
...
ล่าสุด นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา และรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รับตัวผู้ต้องหาหญิง 7 ราย ผู้ต้องหาชาย 10 ราย แยกคุมขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง ประมาณ 20.40 น. ผู้ต้องขังใหม่ทุกรายจะต้องทำประวัติ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ซึ่งผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาจะยังไม่ตัดผมแต่ต้องมัดรวบให้เรียบร้อย
ส่วนความเครียดหรือกังวลเป็นปกติของผู้ต้องขังใหม่อยู่แล้ว แต่ช่วงแรกมีเจ้าหน้าที่คอยมอนิเตอร์กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะให้แพทย์และนักจิตวิทยาประจำเรือนจำช่วยให้คำปรึกษาพูดคุยเรื่องการปรับตัวภายในเรือนจำ
สำหรับผู้ต้องขังใหม่และคดีเดียวกันจะมีการแยกคุมขังไม่ให้อยู่เป็นกลุ่มใหญ่ แต่อาจอยู่รวม 1-2 คนได้บ้างเพราะบางครั้งต้องการช่วยปลอบใจกัน และอยู่ในแดนกักโรคตามมาตรการป้องกันโควิด 5 วัน ก่อนย้ายสู่แดนในเรือนจำ โดยทนายความจะเยี่ยมผู้ต้องขังได้ทันทีผ่านระบบออนไลน์ ส่วนการเยี่ยมญาติต้องหลังจากผ่าน 5 วัน.