เจ้าของรถเผยมีแมวพันธุ์ไทยเพศผู้สีดำอายุปีเศษอยู่ในรถ หลังโดนคนร้ายก่อเหตุขโมยรถไปจากลานจอดรถห้างดังย่านรัชดา ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสกัดจับ

วันที่ 2 ต.ค. 67 จากกรณีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างแห่งหนึ่งย่านรัชดาพยายามไล่สกัดรถฮอนด้า HRV สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ฮ 7086 กรุงเทพมหานคร โดยมีการขับชนเครื่องกีดขวาง ซึ่งภายหลังมีรายงานว่าเป็นรถของผู้ที่มาใช้บริการซึ่งถูกคนร้ายชิงไป ขณะจอดติดเครื่องแล้วลงจากรถ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้

โดย เดอะ สตรีท รัชดา ได้ออกหนังสือชี้แจง ระบุว่า จากเหตุการณ์ผู้ไม่ประสงค์ดีนำรถยนต์ของผู้มาใช้บริการออกไปจากลานจอดรถนั้น พนักงานรักษาความปลอดภัยของศูนย์การค้าฯ ได้เข้าไประงับเหตุที่เกิดขึ้นในทันทีอย่างสุดความสามารถ ทั้งนี้ ทางศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ได้ประสานกับ สน.ห้วยขวาง ให้ความร่วมมือในการส่งข้อมูลและหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางศูนย์การค้าฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้จัดเจ้าหน้าที่ที่เป็นตัวแทนของศูนย์การค้าฯ คอยช่วยเหลือเจ้าของรถผู้เสียหายอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ ศูนย์การค้าฯ ยังคงติดตามและประสานงานอย่างต่อเนื่อง หากมีผลสรุปที่ชัดเจนแล้วจะแจ้งเพื่อทราบในลำดับถัดไป

ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา มีนโยบายปฏิบัติและมาตรการระบบความปลอดภัยที่เข้มงวด โดยยึดถือความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการ ร้านค้า และพนักงานเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ล่าสุด พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า จากการสอบสวน หญิงสาว อายุ 25 ปี เจ้าของรถ เดินทางมาจากที่พักย่านพระราม 4 มาทำธุระย่านห้วยขวาง จึงได้แวะมาซื้อกาแฟ ณ ห้างฯ ที่เกิดเหตุ โดยผู้เสียหายเอาแมวพันธุ์ไทยเพศผู้สีดำอายุปีเศษติดรถมาด้วย แต่ช่วงที่ลงไปซื้อกาแฟไม่ได้ดับเครื่องยนต์ เนื่องจากต้องเปิดแอร์ในรถไว้ เพราะเกรงว่าแมวจะร้อนและหายใจไม่ออก

...

จากนั้นจึงได้ลงไปซื้อกาแฟ โดยนำรีโมทติดตัวไปด้วย ขณะที่กำลังจะเดินเข้าห้างได้เห็นรถของตัวเองขับผ่านหน้าไป จึงได้ตะโกนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ช่วยสกัดจับ จากนั้นคนร้ายพยายามขับรถวนหาทางออกอื่น แต่ห้างนี้มีทางออกที่เดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ของห้างพยายามวิ่งไล่สกัดรถ แต่คนร้ายก็สามารถขับฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ชนรั้วเหล็กออกไปยังถนนรัชดาภิเษกได้มุ่งหน้าไปยังแยกสุทธิสาร

เบื้องต้น ฝ่ายสืบสวนทราบรูปพรรณสัณฐานของผู้ก่อเหตุแล้วมีลักษณะเพศหญิง จากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้รถกำลังเคลื่อนตัวอยู่ย่านมีนบุรี และถอดป้ายทะเบียนออก น้ำมันเหลืออยู่เพียง 2 ขีด สามารถวิ่งได้อีกกว่า 100 กิโลเมตร หากดับเครื่องรถจะไม่สามารถสตาร์ทได้ เพราะอยู่ห่างจากรีโมท และเบื้องต้นผู้เสียหายบอกว่าไม่รู้จักคนร้าย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสกัดจับมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.