งามไส้มหาดไทย ผู้ใหญ่บ้านหื่น แชตเฟซบุ๊กลวงขยี้กามเด็กหญิงวัย 11 ปี ฉวยโอกาสช่วงแม่เด็กเข้างานกะดึก ดอดมารับเหยื่อไปย่ำยีในเถียงนา ทำมาแล้ว 3 ครั้ง ขู่ถ้าบอกใครจะเอาถึงตาย แม่ใจสลายร้อง “ปวีณา” ช่วยเหลือ หลังพบลูกสาวกลายเป็นเด็ก ซึมเศร้า ตำรวจเมืองสระบุรีตะครุบตัวทันควัน รับทำจริง คุมส่งฝากขัง ศาลไม่อนุญาตให้ประกัน คอตกนอนคุกทันที อีกรายญาติผู้พี่ร้องน้องสาวถูกเฒ่าตัณหากลับเป็นพ่อของอดีตสามีล่วงละเมิดมาราธอน 3 ปี ตั้งแต่เด็ก 8 ขวบ ตำรวจท่าตะเกียบล็อกซาตานหื่นมาสอบ จำนนต่อหลักฐานมีคลิปลามกมัดตัวแน่น

สะเทือนใจกรณีนางแอน (นามสมมติ) อายุ 44 ปี ชาว จ.สระบุรี โทร.สายด่วน 1134 มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งขอความช่วยเหลือว่า ด.ญ.อิ่ม (นามสมมติ) วัย 11 ขวบ ลูกสาว ถูกนายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 44 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ล่อลวงไปกระทำชำเราถึง 3 ครั้งจนเด็กเป็นซึมเศร้า ต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขอมูลนิธิปวีณาฯช่วยเหลือด้วย หลังรับเรื่องวันที่ 25 ก.ย. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ประสาน พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาล ผกก.สภ.เมืองสระบุรี และให้นางแอนพาลูกสาวไปพบเพื่อสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ

ความคืบหน้าของคดีเมื่อวันที่ 27 ก.ย. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาล ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ว่า ช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ย. หลังสหวิชาชีพสอบเด็กหญิงผู้เสียหายแล้ว พนักงานสอบสวนได้ไปขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุคือนายอุเทน บุญเรืองศรี อายุ 44 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.กุดนกเปล้า อ.เมืองสระบุรี ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบสามปี, พรากเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบสามปีไปเพื่อการอนาจารฯ” ชุดสืบสวนนำหมายจับไปจับกุมแต่ไม่พบตัว ต่อมาผู้ต้องหาเดินทางมาพบที่โรงพัก นายอุเทนรับสารภาพว่าได้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอิ่ม รวม 3 ครั้งพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาตามหมายจับ คุมตัวไปฝากขังศาลจังหวัดสระบุรี ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ส่งฝากขังยังเรือนจำจังหวัดสระบุรี

...

นางแอน แม่เด็กหญิงเหยื่อกาม กล่าวว่า ตนทำงานโรงงาน ต้องเข้างานกะกลางคืนเป็นประจำ ส่วนลูกสาวอยู่บ้านกับตาวัยชรา เมื่อวันที่ 10 ก.ย.67 เลิกงานกลับบ้านมาตอนสาย เห็นลูกสาวนั่งซึมอยู่หน้าบ้าน เข้าไปพูดคุยด้วย ลูกสาวได้ร้องไห้ก่อนจะเล่าว่าถูกผู้ใหญ่บ้านพาไปกระทำชำเราที่เถียงนาถึง 3 ครั้งแล้ว ล่าสุดถูกกระทำที่เถียงนาเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ลูกสาวรู้จักกับผู้ใหญ่บ้านคนนี้ทางเฟซบุ๊กและแชตพูดคุยกันได้ประมาณ 1 เดือน ผู้ใหญ่บ้านจะแอบมารับที่บ้านตอนกลางคืน ก่อนจะพาไปกระทำชำเราที่เถียงนาและกระท่อมนา

“หลังทราบเรื่องได้พาลูกสาวไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสระบุรี ตำรวจส่งเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแล้ว ขอมูลนิธิปวีณาฯช่วยติดตามคดีให้ด้วย หลังเกิดเหตุลูกสาวกลายเป็นคนหวาดกลัว หวาดระแวง มีอาการซึมเศร้า ไม่กล้าบอกใคร เพราะถูกผู้ใหญ่บ้านข่มขู่เอาไว้จะทำร้ายถึงชีวิต ตนรับไม่ได้ที่คนเป็นถึงผู้ใหญ่บ้าน มีหน้าที่ดูแลชาวบ้านแต่กลับมากระทำกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆไม่มีทางต่อสู้ได้ ต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะคนแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้เป็นภัยกับสังคม และเกรงจะไปกระทำกับเด็กคนอื่นๆอีก อยากให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บังคับบัญชาดำเนินการด้านวินัยและอาญากับผู้ใหญ่บ้านคนนี้ให้ถึงที่สุดด้วย” แม่เหยื่อหื่นกล่าว

อีกราย น.ส.พร (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ว่า ด.ญ.พิม (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ น้องสาว เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แชตมาบอกว่า ถูกพ่อของอดีตสามีตนวัย 60 ปี ข่มขืนตั้งแต่อายุ 8 ขวบเรื่อยมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ก.ย. มีคลิปวิดีโอขณะถูกกระทำเป็นหลักฐาน ตอนนี้น้องสาวยังอยู่ที่บ้านของพ่ออดีตสามี ไม่รู้จะช่วยน้องสาวอย่างไร ขอมูลนิธิปวีณาฯช่วยเหลือน้องสาวให้พ้นขุมนรกด้วย

น.ส.พรกล่าวว่า ด.ญ.พิม น้องสาว เป็นเด็กที่อาภัพ ถูกพ่อทิ้งไปหลังแม่คลอดได้ 16 วัน ส่วนแม่ถูกจับติดคุก ตอนนั้นตนอยู่กินกับนายหมู (นามสมมติ) อดีตสามี ด้วยความสงสารเลยรับ ด.ญ.พิมมาเลี้ยงดู ให้อยู่บ้านพ่อแม่นายหมู ด.ญ.พิมเรียกพ่อแม่ของนายหมูว่าพ่อและแม่ เพราะเข้าใจว่าเป็นพ่อแม่แท้ๆ มาตั้งแต่เล็ก และพ่อแม่ของนายหมูได้ทำหนังสือมอบอำนาจจากพ่อแม่ของ ด.ญ.พิมให้ดูแลลูกจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ กระทั่ง ด.ญ.พิมอายุได้ 4 ขวบ ตนตั้งท้องกับนายหมูและจับได้ว่านายหมูมีผู้หญิงอื่นทำให้ต้องเลิกรากัน ตอนนั้นตนเห็นว่าพ่อแม่นายหมูรักและเลี้ยงดู ด.ญ.พิมอย่างดี เลยไม่ได้นำน้องสาวออกมาจากบ้านนั้นด้วย ตนได้พาลูกไปเจอปู่ย่าบ้างและได้เจอ ด.ญ.พิมหลายครั้ง ทุกอย่างดูเหมือนไม่มีอะไร กระทั่งเมื่อไม่กี่วันนี้ได้แชตเฟซบุ๊กคุยกับ ด.ญ.พิม น้องสาวบอกว่าเพิ่งรู้ความจริงว่าพ่อแม่ของนายหมูไม่ใช่พ่อแม่จริง เพราะเห็นเอกสารที่ระบุชื่อพ่อแม่แท้ๆ ขณะไปทำบัตรประชาชน

น.ส.พรกล่าวต่อว่า ด.ญ.พิมยังได้เล่าอีกว่า ถูกพ่อนายหมูข่มขืนกระทำชำเรามาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ข่มขู่ว่า “อย่าไปบอกใคร ถ้าบอกใครแล้วพ่อจะติดคุก” น้องสาวรักพ่อนายหมูเพราะคิดว่าเป็นพ่อแท้ๆเลยไม่บอกใคร จนมารู้ความจริงต้องทนทุกข์อยู่ที่บ้านนั้นเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร ตอนนี้น้องทนไม่ไหวแล้วขอให้ตนช่วยเหลือ ตนไม่รู้ว่าจะเข้าไปช่วยน้องออกจากบ้านนั้นอย่างไร ตัดสินใจติดต่อมายังมูลนิธิปวีณาฯ

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ประสาน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ โลหะเวช ผกก.สภ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา มอบหมายให้ พ.ต.ท.มงคล จันทร์พลอย รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ รับดำเนินการคดีนี้ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯพา น.ส.พร และแม่แท้ๆของ ด.ญ.พิม ไปแจ้งความที่สภ.ท่าตะเกียบ ขณะเดียวกันได้ประสานนางปราณี ประทุมมา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา พาแม่กับ น.ส.พร ไปรับ ด.ญ.พิม ที่โรงเรียนเพื่อรับเด็กเข้าคุ้มครองสวัสดิภาพทันที

...

ต่อมานางปวีณาได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.มงคล จันทร์พลอย รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ ว่า หลังสอบสวนผู้เสียหายและได้คลิปวิดีโอเป็นหลักฐาน ชุดสืบสวน สภ.ท่าตะเกียบ ไปควบคุมตัวนายประดิษฐ์ ฉัตรอินทร์ อายุ 60 ปี พ่อของนายหมู ที่ก่อเหตุมาแจ้งข้อหา “อนาจารเด็กและครอบครองสื่อลามก” เนื่องจากตรวจพบในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหามีหลักฐานภาพและคลิปลามกจำนวนมาก สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ คุมตัวไว้ดำเนินคดี พร้อมส่ง ด.ญ.พิมไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและสอบสหวิชาชีพ หากผลตรวจร่างกายพบร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศจะแจ้งข้อหา “กระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบสามปี และข้อหาอื่นๆ” เพิ่มเติมต่อไป

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่