ประจวบคีรีขันธ์ เด็กหญิงอายุ 13 ปี ถูก 5 วัยรุ่นรุมโทรม เหยื่อให้การว่ามีพระผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส วัย 78 ปี ใน อ.กุยบุรี มีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย ขณะที่ชาวบ้านนับร้อยรุดให้กำลังใจ ไม่เชื่อหลวงตาก่อเหตุ ด้านผู้การฯ ประจวบฯ เผยคดีนี้เชื่อมโยง 4 ท้องที่ มีผู้ต้องหา 9 ราย มอบตัวแล้ว 7 ราย ยังหลบหนีอีก 2 ราย
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเหตุเด็กหญิงอายุ 13 ปี ชาว อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกกลุ่มชายวัยรุ่น จำนวน 5 ราย รุมโทรม โดยเหตุเกิดในพื้นที่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งหลังเกิดเหตุ เด็กหญิง อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บจนเกิดอาการป่วย โดยญาติสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงสอบถามความจริง เมื่อทราบเรื่อง จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว
เบื้องต้น พ.ต.อ.อชิรวัตติ์ ถาวรเจริญ ผกก.สภ.สามร้อยยอด ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว กระทั่งทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลใด จึงได้ประสานให้ผู้ปกครองพามามอบตัว ต่อมาผู้ต้องหา จำนวน 5 รายได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พาผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเยาวชน อายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 3 ราย ส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 ราย อายุเกิน 18 ปี คุมตัวสอบสวน ก่อนนำฝากขังที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
...
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.จำลอง งามเนตร ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิธิวัฒน์ ศรีทองจ้อย และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.วรวัชร แค้มวงค์ ผกก.สภ.กุยบุรี พ.ต.ท.พิทักษ์ อินทร์น้อย สวญ.สภ.สามกระทาย นายชัยชาญ มูลมาก ปลัดอาวุโสอำเภอกุยบุรี ได้เดินทางมายังวัดวังยาว อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อประชุมร่วมกับ พระครูโกศลสุภกิจ เจ้าคณะอำเภอกุยบุรี/เจ้าอาวาสวัดวังยาว และคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ เพื่อร่วมกันพิจารณา กรณีมีการกล่าวหา เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ใน อ.กุยบุรี อายุ 78 ปี ว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่มีเหตุถูกรุมโทรมในพื้นที่ อ.สามร้อยยอด
โดยหลวงตาเจ้าอาวาส ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการเดินทางเข้าพบเจ้าคณะอำเภอกุยบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยมีชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าวเดินทางมาให้กำลังใจหลวงตาเจ้าอาวาส ซึ่งต่างไม่เชื่อว่าท่านจะก่อเหตุดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวหา ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และกำลัง อส.อำเภอกุยบุรี หลายสิบนาย คอยรักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อป้องกันเหตุชุลมุน
จากนั้นได้เชิญตัวหลวงตาเจ้าอาวาส กลับไปยังวัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานประจวบคีรีขันธ์ ได้ตรวจหาหลักฐานในห้องพักและหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.จำลอง งามเนตร ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในคดีนี้ ต่างกรรมต่างวาระ และต่างท้องที่กัน ในพื้นที่ อ.สามร้อยยอด อ.กุยบุรี ต.สามกระทาย และ ต.ยางชุม โดยเจ้าหน้าที่รับคำร้องทุกข์ไว้ 4 คดี ผู้ต้องหามามอบตัวแล้ว 7 คน และนัดมอบตัวในวันจันทร์อีก 2 คน ซึ่งติดต่อมาจากจังหวัดชุมพร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่า มีบุคคลใดเข้าข่ายคดีค้ามนุษย์หรือไม่
ส่วนหลวงตาเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน อ.กุยบุรี ที่ถูกพาดพิงถึงว่าเกี่ยวข้องด้วยนั้น ล่าสุดได้เข้ามอบตัวที่วัดวังยาวแล้ว ซึ่งเป็นสิทธิของท่านตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 29(2) ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำความผิด ต้องให้สิทธิกับผู้ถูกกล่าวหา โดยเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาถึงหลักการให้ประกันตัวตามข้อกฎหมายต่าง ๆ พบว่าไม่เข้าข่ายข้อห้ามใด ๆ ตามมาตรา 108/1 และ 108 ไม่เชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาจะหลบหนีและคงไม่ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ก่อเหตุร้ายประการอื่น หรือขัดขวางกระบวนการสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วจึงให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 2 แสนบาท
...
โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาที่ 1. กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ตามมาตรา 277 ข้อกล่าวหาที่ 2. พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง ตามมาตรา 317 ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตามเป็นความผิดตามกฎหมายคุ้มครองเด็กและเยาวชนไว้ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือในท้องที่ อ.กุยบุรี ต.ยางชุม และที่ อ.สามร้อยยอด นั้น ก็ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในทำนองเดียวกันทั้งหมด
ส่วนชาวบ้านที่ทราบข่าวและเดินทางมาให้กำลังใจหลวงตาเจ้าอาวาสจำนวนมากนั้น ไม่ได้มีปัญหาใด ๆ เนื่องจากหลวงตาเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน ท่านอายุ 78 ปี บวชเรียนมานาน จึงมีญาติโยมศรัทธาจำนวนมาก ขณะนี้เป็นการต่อสู้กันด้วยหลักฐานทางคดี ระหว่างคำให้การของเด็กหญิงอายุ 13 ปี ผู้เสียหาย กับหลวงตาเจ้าอาวาสที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี ซึ่งท่านให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยทางพนักงานสอบสวนจะต้องไปรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ให้ทราบว่า ผู้ต้องหานั้นเป็นผู้บริสุทธิ์หรือเป็นผู้ผิด ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 131 ป.วิ อาญา ที่จะให้โอกาสทั้ง 2 ฝ่าย ที่จะต่อสู้คดีกัน
ทางด้าน นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า คดีนี้มีความเปราะบาง และสะเทือนใจอย่างยิ่ง หลังได้รับรายงาน จึงได้กำชับและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินคดีด้วยความละเอียดรอบคอบ ให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ขณะเดียวกันก็รักษาสิทธิ์ทั้งของผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุบางรายด้วย เนื่องจากยังเป็นเยาวชน ยืนยันว่าทางจังหวัดพร้อมเข้าไปดูแลช่วยเหลือทุกฝ่าย
...