พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เผย บช.น.สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว กรณี 2 ผู้ต้องหาคดียาไอซ์เหลี่ยมจัดใช้อุบายแหกห้องขังโรงพัก สน.พญาไท สิบเวรหลงกล ถูกปิดประตูขัง มีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจหรือไม่

ความคืบหน้ากรณีสองผู้ต้องขังคดียาเสพติดแหกห้องขัง สน.พญาไท หลบหนีขึ้นรถออกไปช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ทำทีขอยืมโทรศัพท์สิบเวรโทรหาญาติ ก่อนอาศัยจังหวะล็อกคอและขังสิบเวรในห้องขังแทน ท้ายสุดถูกกดดันจนขอมอบตัวที่ สภ.สีดา ภ.จว.นครราชสีมา ถูกคุมตัวกลับมาที่ สน.พญาไท

เมื่อ 13.50 น. วันที่ 19 กันยายน 2567 ชุดสืบสวน สน.พญาไท คุมตัวนายอ้น อายุ 23 ปี และนายนิพนธ์ อายุ 31 ปี กลับมาที่ สน.พญาไท 

จากนั้น พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) ระบุว่า ผู้ต้องขังทั้ง 2 คือ นายอ้น และนายนิพนธ์ ถูกตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนนครบาลจับกุมได้พร้อมไอซ์ประมาณ 80 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา และถูกคุมตัวมาฝากควบคุมที่ สน.พญาไท เนื่องจากสืบนครบาลไม่มีสถานที่ควบคุม

จากนั้นวันที่ 18 กันยายน เวลา 11.00 น. ชุดสืบสวนนครบาลได้เบิกตัวผู้ต้องขังทั้งสองคนไปสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ก่อนจะคุมตัวกลับมาฝากควบคุมที่ สน.พญาไท ในเวลา 23.00 น. โดยมีสิบเวรที่เฝ้าบริเวณหน้าห้องขัง

...

ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนเวรในเวลาเที่ยงคืน และมี ร.ต.ต.รุ้งระวี สืบเหล่างิ้ว รอง สว.(ป) สน.พญาไท ปฏิบัติหน้าที่สิบเวรประจำห้องขัง

ต่อมาเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ ก็มีชายคนหนึ่งเอาของใช้มาฝากให้กับผู้ต้องหาทั้งสองราย โดยเอาของมาฝากผ่านสิบเวร และไม่ให้เข้าเยี่ยม เนื่องจากว่าเลยเวลาแล้ว สิบเวรจึงรับของไว้และเอาของใช้ส่วนตัวไปให้ผู้ต้องหา

จนกระทั่งเวลาตีหนึ่งเศษ สิบเวรสังเกตเห็นว่าผู้ต้องหาโบกมือใส่กล้องวงจรปิด จึงได้เข้าไปถามว่ามีอะไร นายอ้น ผู้ต้องหา ก็บอกว่าปวดท้อง ไม่สบาย เหมือนจะเป็นกรดไหลย้อน ขอโทรศัพท์เพื่อโทรหาแฟนให้เอายามาให้เพราะต้องกินยา

สิบเวรจึงได้ตัดสินใจต่อโทรศัพท์ให้และส่งโทรศัพท์ให้คุย โดยยืนคุมเชิงอยู่ด้านหน้า ซึ่งใช้เวลาคุยอยู่ประมาณเกือบ 2 นาที หรือประมาณ 100 กว่าวินาที

จากนั้นขอรับโทรศัพท์คืน แต่ขณะที่ส่งโทรศัพท์คืนให้สิบเวร นายอ้นก็ล็อกคอสิบเวรก่อนปลุกปล้ำกัน ส่วนนายนิพนธ์ ผู้ต้องหาอีกคนก็วิ่งหนีออกมา ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 จะวิ่งหลบหนีออกจากที่ควบคุมไปขึ้นรถคันสีแดง

ต่อมาจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนี พร้อมกับวิทยุสกัดจับ และโทรศัพท์กลับไปที่เบอร์ของภรรยาผู้ต้องหา และทราบว่าผู้ต้องหาอยู่แถวอำเภอพล เมื่อถูกกดดันมาก ๆ จึงไปมอบตัวที่ สภ.สีดา ตอนประมาณตีห้า

จากการสืบสวนพบว่ามีรถสีแดงมาจอดรอรับทั้งคู่ โดยจากการตรวจสอบพบว่าเป็นคนเดียวกับที่เอาของใช้มาให้ตอนเที่ยงคืนกว่า ซึ่งตอนนี้ทราบตัวบุคคลนี้ว่าเป็นชายอายุ 27 ปี ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ก็ยอมรับว่าชายรายนี้เป็นบุคคลที่ช่วยเหลือหลบหนีไป ซึ่งก็จะเป็นการออกหมายจับต่อไป

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าวางแผนที่จะหลบหนี ซึ่งจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องคือคนที่มารับ และยังต้องตรวจสอบต่อไปว่ามีผู้เกี่ยวข้องหรือมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจหรือไม่ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

บางช่วงบางตอน พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ระบุว่า ผมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้วว่า กรณีที่ให้ผู้ต้องหาใช้โทรศัพท์เข้าเงื่อนไข หรือผิดระเบียบอะไรหรือไม่ นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบในทางลึกอีกว่า มีเจ้าหน้าที่คนใด ไม่ใช่เฉพาะสิบเวร คนอื่นมีรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ มีการให้ข่าวหรือให้ข้อมูลอะไรผู้ต้องหาหรือไม่