ศาลจังหวัดพิจิตร พิพากษาจำคุก ลูกศิษย์ อดีตเจ้าอาวาสวัด ผู้จ้างวาน และชายฉกรรจ์ชุดดำ รวม 21 คน บุกวัดบางคลาน กวาดต้อนทำร้ายร่างกายพระสงฆ์ ไวยาวัจกร และคนงานหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัส คนละ 18 เดือน คุมประพฤติ 2 ปี รอลงอาญา 4 ปี ส่วนอดีต ส.ว. ‘กิตติศักดิ์’ ตำรวจยังไม่ได้ส่งฟ้อง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 กันยายน 2567 ศาลจังหวัดพิจิตร อ่านคำพิพากษาคดีอาญาที่พนักงานอัยการ จ.พิจิตร เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.สุภา หรือปภานันท์ อยู่ยืด อายุ 51 ปี แกนนำชาวบ้านฝ่ายต่อต้านเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน อ.โพทะเล เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกในข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถาน โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 เม.ย. 2566 มีกลุ่มชายชุดดำ จำนวน 21 คน สวมแมสก์ สวมหมวกไหมพรม และสวมหมวกแก๊ป บุกเข้าไปภายในวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน (วัดหลวงพ่อเงิน) ได้ทำการกวาดต้อน ทำร้ายร่างกายพระสงฆ์ ไวยาวัจกรวัด และคนงานภายในวัด ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายคน

หลังจากเกิดเหตุ พระครุพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลาน ได้มอบหมายให้ไวยาวัจกรวัดบางคลาน นำหลักฐานจากกล้องวงจรปิด คลิปวิดีโอ และภาพประกอบ รวมถึงหลักฐานต่าง ๆ ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้เกี่ยวข้อง ประกอบไปด้วย นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ อดีต ส.ว. และ น.ส.สุภา หรือสุภานันท์ อยู่ยืด ลูกศิษย์คนสนิทพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลานรูปเก่า ที่มรณภาพไปแล้ว เป็นแกนนำจ้างวานชายชุดดำบุกเข้ามาภายในวัดก่อเหตุดังกล่าว

โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้งหมดมีความผิดอาญาหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา ให้นางสาวสุภา จำเลย พร้อมพวกชายฉกรรจ์ชุดดำ รวม 21 คน ความผิดฐานร่วมกันบุกรุกเคหสถานและสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่น ร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย จำคุกคนละ 18 เดือน ปรับคนละ 87,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา จำนวน 4 ปี และให้คุมประพฤติเป็นระยะเวลา 2 ปี ห้ามกระทำการใด ๆ เช่นเดิมอีก

...

สำหรับรายของ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ อดีต ส.ว. ทางพนักงานสอบสวน สภ.โพทะเล จ.พิจิตร กล่าวว่า ในห้วงหลังเกิดเหตุ และมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษนั้น ทางด้านอดีต ส.ว. กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ได้ใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองในการเป็นสมาชิกวุฒิสภา พนักงานสอบสวนจึงยังไม่ได้สอบปากคำทำสำนวนเพิ่มเติม หลังจากนายกิตติศักดิ์ หมดวาระการเป็น ส.ว. ลงแล้ว พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายกิตติศักดิ์มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่นายกิตติศักดิ์ได้ยื่นสิทธิ์ขอเพิ่มเติมพยานต่อพนักงานสอบสวน สภ.โพทะเล อีก 3 ปาก พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รวบรวมสำนวนนายกิตติศักดิ์ส่งให้อัยการจังหวัด เพื่อส่งฟ้องศาลและตัดสินพร้อมกับผู้ที่ศาลสั่งจำคุกในวันนี้

โดยหากพยานของนายกิตติศักดิ์อีก 3 ปากมาสอบปากคำครบ ก็จะสรุปสำนวนส่งให้อัยการส่งฟ้องศาลทันที.