ตำรวจเร่งคลี่คลายคดี "คิวพี" ดาราหนุ่มขับเจ็ตสกีชนเรือหางยาวชาวบ้าน จมน้ำดับ 2 ศพ ขณะที่ "กรมเจ้าท่า" เตรียมเรียกนักแสดงหนุ่มเข้าให้ปากคำอีกครั้งพรุ่งนี้ ด้านพ่อดาราหนุ่มฝากขอโทษครอบครัวเหยื่อ ลั่นพร้อมเยียวยาสุดความสามารถ ยืนยันเป็นอุบัติเหตุ 

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอุบัติเหตุเจ็ตสกีพุ่งชนเรือหางยาวของชาวบ้านที่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ล่าสุดตั้งแต่ช่วงสายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ทั้งรองผู้กำกับสอบสวน หัวหน้างานสอบสวน และพนักงานสอบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางลงเรือไปตรวจสอบที่เกิดเหตุกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อหาจุดที่เกิดอุบัติเหตุ ขณะเดียวกัน มีการลากเรือเจ็ตสกีและเรือหางยาวมายังท่าเรือศุภนาวา ในพื้นที่ อ.พระประแดง เพื่อตรวจสอบและเก็บหลักฐานร่องรอยการชนจากเรือทั้งสองลำ โดยเจ้าหน้าที่ พฐ. ได้เก็บหลักฐานต่างๆ พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี

โดย พ.ต.ท.อิศรัฐ ตันสุ สารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับฝ่ายใด ขณะนี้ต้องรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจหาภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงข้อกฎหมายการเดินเรือและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับทางกรมเจ้าท่า เนื่องจากเกิดเหตุในแม่น้ำ จะต้องประสานข้อมูลต่างๆ จากกรมเจ้าท่า เพื่อนำมาพิจารณาทางคดีอาญาอีกครั้ง โดยหลังจากรวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอก็จะเชิญทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำ ทั้งคนขับเจ็ตสกีและผู้โดยสารเรือหางยาวที่รอดชีวิต

ด้าน นายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีที่เกิดเหตุเมื่อคืนนี้ที่เรือเจ็ตสกีชนกันกับเรือหางยาวนั้น วันนี้ตอนเช้าเราได้ร่วมกับทางพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง นำเรือไปตรวจพิสูจน์แล้วว่าจุดเกิดเหตุมันอยู่บริเวณไหน แต่ในเบื้องต้นเรายังไม่ได้คอนเฟิร์มว่าตรงจุดไหน เราต้องรอเครื่องยนต์ของเรือหางยาวที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เดี๋ยวจะมีการพิสูจน์ให้ทราบอีกทีว่าอยู่ในท้องที่เกิดเหตุของใคร เพราะว่าตรงจุดเกิดเหตุอยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงเทพฯ กับ จ.สมุทรปราการ เบื้องต้น เรายังไม่ได้พิสูจน์ทราบแน่ชัด ตอนนี้เรายังไม่ชัวร์ ต้องรอตรวจสอบเครื่องยนต์เรือก่อนว่ามันชนกันตรงจุดไหน ส่วนเรื่องทางคดีความนั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะล่าช้าและจะเร่งประสานทางมูลนิธิ เพื่อขอนำเครื่องเรือหางยาวขึ้นมา จะได้พิสูจน์ให้ทราบแน่ชัดว่าอยู่บริเวณจุดไหน ซึ่งจะต้องเร่งพิสูจน์ทราบอีกที

...

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางโลกโซเชียลมีการสอบถามเรื่องเส้นทางการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาของเจ็ตสกี หรือเรือหางยาวข้ามฟาก นายฉัตรชัย กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นเจ็ตสกีหรือว่าเรือหางยาว อันดับแรกกรมเจ้าท่าจะมี พ.ร.บ.การเดินเรือ ซึ่งเรือทุกลำจะต้องมีใบอนุญาตใช้เรือ แล้วก็จะต้องมีใบนายท้ายเรือ ลักษณะเหมือนกับใบขับขี่รถยนต์ แต่ทางเราต้องขอตรวจสอบก่อน ส่วนเรือเจ็ตสกีจากการตรวจสอบตัวเรือมีใบอนุญาต โดยวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าจะเชิญผู้ก่อเหตุไปให้ถ้อยคำที่กรมอีกครั้ง เพื่อความชัดเจนด้านข้อกฎหมาย

"แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นทางสาธารณะ แต่ถ้าหากใช้เรือไม่ได้รับอนุญาตก็จะมีความผิด ซึ่งเป็นนโยบายของกระทรวงคมนาคม รวมทั้งอธิบดีกรมเจ้าท่า ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น คนบนเรือจะต้องมีการสวมใส่เสื้อชูชีพ เรือจะต้องมีใบอนุญาต คนขับขี่จะต้องมีใบนายท้าย ซึ่งเรามีมาตรการควบคุมและกำกับดูแลอยู่แล้ว ซึ่งเราเองก็มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยทั้งเรือและคนประจำเรือ รวมถึงท่าเรือหรือโป๊ะก็ต้องมีความปลอดภัย ซึ่งทางเรามีมาตรการออกตรวจปราบปราม มีการประชาสัมพันธ์เรื่องชูชีพ หรือการขับเรือโดยไม่มีใบนายท้ายเรือ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" นายฉัตรชัย กล่าว

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ประเด็นนี้ตนจะขอไปตรวจสอบอีกที ซึ่งหากขับโดยไม่มีใบนายท้ายเรือ ก็จะต้องแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งตนอยากจะขอความร่วมมือในการขับขี่เรือ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ย้ำการขับเรือจะต้องมีใบอนุญาต ต้องเรียนรู้กฎข้อบังคับทางน้ำสาธารณะ เพราะทางกระทรวงคมนาคมหรือกรมเจ้าท่า มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัย ดังนั้นต้องขอความร่วมมือทุกคนให้คำนึงถึงความปลอดภัยด้วย

ด้าน นายพรทวี จันทร์ม่วง เจ้าของเรือเจ็ตสกี เปิดเผยว่า สำหรับข่าวที่ระบุว่า เจ็ตสกีลำดังกล่าวมีมูลค่า 7 ล้านบาทนั้น ไม่เป็นความจริง เรือลำนี้ราคาอยู่ที่ 7 แสนบาทเท่านั้น ส่วนที่ระบุในเอกสารของกรมเจ้าท่านั้น คาดว่าจะใส่ตัวเลขผิดพลาดไป ส่วนเรือลำดังกล่าวเป็นเรือส่วนบุคคล ไม่ใช่เรือสำหรับให้เช่าขับ ส่วนน้องคิวพีคือหลานชายแท้ๆ ของตน ปกติแล้วจะพากันขับเรือออกไปในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นประจำ และน้องก็มีความชำนาญมากในการขับเรือ ซึ่งปกติแล้วน้องจะไม่ได้ขับเร็วแต่อย่างใด ส่วนเจ็ตสกีลำนี้มีการจดทะเบียนและขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีการบังคับทำประกันภัยด้วย แต่ต้องกลับไปดูเอกสารเรื่องประกันภัยอีกครั้ง ส่วนประเด็นที่มองว่าเรือมีไฟหน้าและไฟท้ายหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าเรือมีทั้งไฟหน้าที่ค่อนข้างสว่าง รวมถึงไฟท้ายก็มีครบ และใช้งานได้อย่างแน่นอน

ด้าน พ่อน้องคิวพี ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ตนมากับกลุ่มเรือที่มีน้องคิวพีมาด้วย แต่ขับมาคนละลำ ก่อนเกิดเหตุน้องคิวพีกับเพื่อนอีกลำขับออกมาจากร้านอาหารก่อน ส่วนตนและลำอื่นกำลังขับตามหลังออกมา จังหวะที่หลุดโค้งน้ำมานั้นก็ชนแล้ว หลังจากนี้ทางครอบครัว รวมถึงน้องคิวพีจะเข้าไปที่งานศพเพื่อขอขมาและพูดคุยกับทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต รวมทั้งฝั่งผู้บาดเจ็บด้วย

"ทางเราพร้อมเยียวยาช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ ถามว่าน้องคิวพีขับประจำหรือไม่ ยอมรับว่าน้องขับอยู่เป็นประจำ แต่ยืนยันว่าตัวน้องรวมถึงครอบครัวไม่ใช่คนที่ขับเรือเร็วแต่อย่างใด ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนในฐานะพ่ออยากฝากขอโทษทางครอบครัวของผู้เสียหาย หากเลือกได้ตนยืนยันว่าคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอย่างแน่นอน ยืนยันมันเป็นอุบัติเหตุ" พ่อน้องคิวพี กล่าว