ชุดสืบนครบาลบุกรวบ “หมี จอมฉก” เดนคุกติดยา อาละวาดลักทรัพย์ตามบ้านเรือนย่านหนองจอก-มีนบุรีต่อเนื่องชาวบ้านทนไม่ไหวร้องเรียนเพจสืบนครบาล ตรวจสอบพบมีหมายจับ 2 หมาย ตามลากคอได้คาบ้าน สารภาพขั้นตอนการวางแผนก่อเหตุ โอดหลังออกจากคุกเลือกเป้าหมายเป็นทรัพย์สินราคาไม่แพง คิดว่าตำรวจจะไม่สนใจ สุดท้ายโดนจับกุมกลับเข้าคุก

สืบนครบาลตามจับตีนแมวตระเวนลักทรัพย์สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ส.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ สั่งการให้ พ.ต.ท.ศราวุฒิ พิมพ์สุภาพร หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ร.ต.อ.พงศกร อินทร์คง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. และ จ.ส.ต.สัมฤทธิ์ แก้วสุริยา ผบ.หมู่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. จับกุมนายวุฒิภูมิ หรือหมี โพธิสภา อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี 2 หมาย เลขที่ จ.1299/2566 ลงวันที่ 8 ธ.ค.66 และเลขที่ จ.1058/2567 ลงวันที่ 5 ส.ค.67 ข้อหาเดียวกันคือ ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม จับกุมได้บริเวณหน้าบ้าน หมู่ 18 ถนนคุ้มเกล้า 12 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา

จากการสืบสวนสอบสวนพบนายวุฒิภูมิผู้ต้องหา มีประวัติเป็นผู้ต้องขังคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ พ.ร.บ.อาวุธปืนและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 หลังพ้นจากเรือนจำมีพฤติการณ์ตระเวนลักทรัพย์สินชาวบ้านหลายพื้นที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.เห็นประกาศข้อความขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านย่านหนองจอกว่า ทรัพย์สินถูกลักเอาไปเป็นจำนวนหลายรายการและสร้างความเสียหายให้แก่ชาวบ้านหลายราย จากการตรวจสอบทราบว่า เป็นฝีมือของนายวุฒิภูมิ และพบว่ามีหมายจับ คดีลักทรัพย์ถึง 2 หมายจึงติดตามจับกุมตัวมาได้ดังกล่าว

...

สอบสวนนายวุฒิภูมิให้การว่า รับสารภาพก่อเหตุลักทรัพย์มาหลายครั้งในย่านมีนบุรีและใกล้เคียง แต่จะเลือกลักเอาทรัพย์สินที่มีราคาไม่สูงมาก เพื่อหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่สนใจติดตามตัวมา ดำเนินคดีเพราะเป็นเรื่องเล็กน้อย ก่อนก่อเหตุจะนำป้ายทะเบียนรถ จยย.มาสลับหลายหมายเลขเปลี่ยนไปมา อำพรางตัวด้วยการใช้เสื้อวินรถ จยย.รับจ้าง และเสื้อสะท้อนแสงเพื่อลดความสนใจของตำรวจที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัดอยู่ สุดท้ายที่พักจะเลี้ยงสุนัขเอาไว้ ถ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจับกุมสุนัขจะเห่า เตือนทำให้ไหวตัวทัน หลังจากลักทรัพย์นำทรัพย์สินไปขายนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และซื้อยาเสพติดเสพ

ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมผู้ต้องหาเคยต้องโทษในคดีอาญาถึง 3 คดี คดีแรกปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธเมื่อปี 2551 ท้องที่ สน.มีนบุรี คดีต่อมาเป็นคดีเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมื่อปี 2557 ท้องที่ สน.คันนายาว และคดีสุดท้ายครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย เมื่อปี 2557 ท้องที่ สน.คันนายาว

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า พฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุนับว่าเป็นภัยสังคม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ออกตระเวนก่อเหตุลักเอาทรัพย์สินในหลายท้องที่ในเวลากลางวัน มีการวางแผน อำพรางตัว สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านโดยรวมอย่างมาก หากไม่รีบจับกุมอาจเป็นภัยสังคมที่ส่งผลให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวในวงกว้าง ขอฝากเตือนประชาชน ไม่ประมาทวางสิ่งของทรัพย์สินไว้นอกบ้าน ไกลสายตา เพราะจะเพิ่มโอกาสก่อเหตุให้มิจฉาชีพ ก่อนควบคุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดี

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่