ชุดสืบสวนภาค 2 บุกทลายฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในหมู่บ้าน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รวบตัว 4 ผู้ต้องหาชาวไทยทำเพจเฟซบุ๊กหลอกเชือดเหยื่อหลายรูปแบบทั้งอ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ลวงซ้ำเติมเหยื่อแก๊งคอลฯ และโรแมนซ์สแกม เร่งขยายผลตามล่า 2 หัวโจกชาวจีนที่เผ่นหนีออกนอกประเทศไปแล้ว เผยมาตรการ “ระเบิดสะพานโจร ตัดซิม เสา สาย ตามแนวชายแดน” ทำเอาแก๊งคอลฯในต่างประเทศทำงานไม่ได้ต้องย้ายออฟฟิศเข้ามาอยู่ในไทย ถือเป็นรายแรกที่ถูกบุกทลาย

ตำรวจบุกทลายฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดเผยที่ บช.ภ.2 จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 แถลงผลจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามมาตรการ “ระเบิดสะพานโจร ตัดซิม เสา สาย ตามแนวชายแดน” ทำให้สัญญาณโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศหมดลงหรือไม่สะดวกต่อการใช้งาน ต้องปรับตัวลักลอบนำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และพนักงานในแก๊งมาตั้งเป็นฐานปฏิบัติการหลอกลวงประชาชนในประเทศไทย ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประชาชนชาวไทยโดยตั้งฐานออฟฟิศอยู่ในประเทศไทย

ทั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 สืบทราบว่ามีขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้บ้านภายในหมู่บ้านดิไอคอน ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ตั้งเป็นออฟฟิศทำงาน สนธิกำลังร่วมกับตำรวจ สภ.ศรีราชา บุกเข้าตรวจค้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 ส.ค. พบชายไทย 4 คน ภายในบ้านมีคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ 10 เครื่อง และข้อมูลการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์

สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่า ร่วมกันเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งเพจเฟซบุ๊กในการหลอกลวงเหยื่อหลายรูปแบบ ทั้งอ้างตัวเป็นตำรวจไซเบอร์หรือทนายความที่สามารถช่วยเหลือด้านคดีให้คนที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงและทำให้ได้เงินที่ถูกหลอกไปกลับคืนมา เป็นการหลอกซ้ำเติมเหยื่อให้โอนเงินเข้ามาลงทะเบียนรับการช่วยเหลือ และยังหลอกลวงในรูปแบบโรแมนซ์สแกม หรือหลอกให้รัก จะมีสคริปต์การพูดหลอกลวงเหยื่อให้หลงเชื่อและโอนเงินมาให้ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดพบว่ามีการสนทนากับเหยื่อในแอปพลิเคชันเมสเซ็นเจอร์ เฟซบุ๊กและไลน์ออฟฟิเชียลเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบการกระทำความผิดครอบครองปืนพกสั้นแบบกึ่งอัตโนมัติ เครื่องกระสุนปืน และเสพยาเสพติด จับกุมตัวและแยกดำเนินคดีที่ สภ.ศรีราชา

...

จากการสอบสวนขยายผลทราบว่า ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้มีหัวโจกกลุ่มเป็นชาวจีน หัวหน้าชื่อนายจ้าว รองหัวหน้าชื่อนายเฉิน หรือปีเตอร์ มีเลขาเป็นคนไทยชื่อนายภาวัต หรือเหว่ย มีพฤติกรรมเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ค้ามนุษย์ บ่อนการพนัน และฟอกเงิน ต่อมาตำรวจขออนุมัติศาลออกหมายค้นอีก 3 จุด ในกรุงเทพฯเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ปัจจุบันทราบว่าหัวหน้าและรองหัวหน้าคนจีนหลบหนีออกนอกประเทศแล้ว สาเหตุที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ขยายฐานออฟฟิศเข้ามาในประเทศไทย เนื่องจากความไม่สะดวกในการติดต่อสื่อสารและสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ต่างประเทศเลยกล้าเสี่ยงมาเปิดในไทย

ทั้งนี้ตำรวจจะสืบสวนขยายผลผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะติดตามผู้เสียหายที่ถูกแก๊งนี้หลอกลวง เพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและความผิดฐานฟอกเงินต่อไป ใครสงสัยเคยตกเป็นเหยื่อให้ข้อมูลได้ที่ บก.สส.ภ.2 หมายเลขโทรศัพท์ 0-3827-6724 เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีต่อไป

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่