รปภ. เผยวีรกรรม "เอก สายเต๊าะ" คลั่งหนักตอนเช้ามืด ฉีกเอกสาร-ไล่ฟัน ยันเอาเรื่องถึงที่สุด ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ก.ค. 67 ที่ สน.ดอนเมือง จากกรณีตำรวจสืบ สน.ดอนเมือง และสืบสวนนครบาล นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านของ นายเอกลักษณ์ หรือ "เอก สายเต๊าะ" อายุ 42 ปี ย่านดอนเมือง หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในหมู่บ้านว่า นายเอก มีพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ก่อกวนคนในหมู่บ้าน จอดรถยนต์กีดขวางทางเข้าออกหมู่บ้าน และไลฟ์สดก่อกวนผู้อื่น และยังตรวจค้นพบอาวุธปืนบีบีกัน และมีดหัวตัด
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำและปรับทัศนคติ เอก สายเต๊าะ ก็ขอเข้าห้องน้ำ สื่อมวลชนพยายามถามว่า มีความรู้สึกอย่างไรที่โดนควบคุมตัวมาวันนี้ แต่ เอก สายเต๊าะ ไม่มีความกังวลใดๆ และยังบอกอีกว่า ไม่มีใครทำอะไรตนได้ ตนใหญ่ที่สุดในพื้นที่ดอนเมือง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวเข้าไปในห้องสืบสวนสอบสวน
ระหว่างนั้น นายสีครินทร์ หัวหน้า รปภ. ได้เดินทางมาที่ สน.ดอนเมือง และเปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนถูก นายเอก เข้ามาก่อกวน และพยายามเข้ามาทำร้ายร่างกาย ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะ นายเอกต้องการที่จะเข้าหมู่บ้านทางด้านหลัง ซึ่งเป็นทางเดียวกับที่ตอน นายเอกเอารถไปปิดทางเข้าออก แล้วลูกบ้านจะต้องออกด้านหลังหมู่บ้าน
นายสีครินทร์ บอกว่า ตอนนั้น นายเอก ได้มาบังคับให้ตนไปเปิดประตู ซึ่งเป็นกุญแจล็อกด้วยรหัส ตนได้บอกไปว่า ไม่มีรหัส ต้องไปขอนิติ ทำให้ นายเอก เกิดความโมโห และพยายามเข้ามาทำร้าย สุดท้ายต้องไปเอารหัสมาเพื่อที่จะเปิด เพื่อลดแรงปะทะ ยอมรับว่าตอนนี้ รปภ.ในหมู่บ้านเกิดความหวาดกลัว นายเอก อีกทั้ง นายเอก ยังเคยปาขวดใส่ตน เขาอาจจะโกรธเคืองลูกบ้าน แต่ทำอะไรไม่ได้เลยมาลงที่ รปภ. ตนไม่เคยไม่ต่อว่าอะไรเขาเลย และพยายามไม่โต้ตอบเขา เพื่อลดแรงปะทะ
...
"และช่วงประมาณ 04.00 น. นายเอก ได้มาหาตนที่ป้อม รปภ. มาโวยวายว่าไฟสปอตไลต์ส่องเขาบ้านเขา ทำให้นอนไม่ได้ ตนจึงไปปิดให้ แต่เขากลับมาบอกอีกว่า ปิดทำไม เขาไม่เห็นทางเดิน ตนจึงได้ไปแจ้งตำรวจสายตรวจมาระงับเหตุ ตำรวจแนะนำให้ไปปิดไฟ ตนไปปิด เขาก็โมโหปาขวดโซดาลงมาจากชั้น 2 แล้วทำทีจะเดินเข้ามาพูดคุยกับตัวเองในระยะประชิด แต่นายเอกก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว ก่อนที่จะมีเพื่อน รปภ.อีก 1 คน เดินมาห้ามปราม แต่นายเอกกลับใช้อาวุธมีดที่ถือติดตัวมาไล่ฟัน ทำให้ถูกรถจักรยานยนต์ ส่งผลทำให้เบาะนั่งฉีกขาด จากนั้น นายเอก ได้ดึงกุญแจรถไปด้วย พร้อมกระชากกระเป๋าสะพายของตนไป โดยพบภายหลังว่า นายเอก ได้นำเอกสารที่อยู่ภายในกระเป๋าไปฉีกทำลาย และโยนทิ้งไว้บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ตนจึงพาเจ้าหน้าที่เข้าไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมนำเอกสารคืน แต่กลับโดน นายเอก ใช้ไม้เท้าทำร้ายร่างกายอีก" นายสีครินทร์ กล่าว
นายสีครินทร์ กล่าวอีกว่า จะดำเนินการให้ถึงที่สุด ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นก่อนหน้านี้เคยเรียกร้องไปแล้ว แต่กลับถูกปฏิเสธ ครั้งนี้จึงไม่คาดหวัง ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวล ถึงแม้ว่าหลังจากนี้จะต้องมาปฏิบัติหน้าที่ในหมู่บ้านนี้อีก หากเกิดเหตุการ์ณขึ้นอีกตนก็จะดำเนินคดีเอาผิดกับนายเอกอีก
"ตนรับมอบหมายให้มาปฏิบัติหน้าที่เพียง 1 คืน โดยได้รับข้อมูลจากผู้บังคับบัญชาว่า นายเอก พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ และมีประวัติตามที่ปรากฏเป็นข่าว ส่วนตัวรู้สึกกังวล ทางผู้บังคับบัญชาจึงกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด แต่ให้หลีกเลี่ยงการปะทะ หรือโต้เถียง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น" รปภ.กล่าว
ขณะที่ชุดสืบสวนได้คลิปวงจรปิดจากหมู่บ้านของ นายเอก เป็นภาพที่ นายเอก พยายามใช้มีดฟัน รปภ.ที่ประจำอยู่ในป้อมใกล้บ้าน นายเอก ก่อนที่จะชิงทรัพย์กระเป๋าสะพาย ซึ่งภายในมีกระเป๋าสตางค์และสมุดบัญชีของผู้เสียหาย เมื่อช่วงเวลา 04.00 น.ของวันนี้ เบื้องต้นขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และเตรียมที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับ นายเอก คือข้อหา "ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ" ต่อไป.