จากช่วงปี 2560 แชร์ลูกโซ่ออนไลน์เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย บริษัท โอดี แคปปิตอล จำกัด เป็นหนึ่งรูปแบบการหลอกลวงประชาชน อ้างว่ารับฝากเงินลงทุนนำไปเพิ่มมูลค่าโดยนำไปเทรดค่าเงิน forex และรับรองกำไรที่ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 จากเงินลงทุน

ผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อเข้าไปร่วมลงทุนเข้ามาแจ้งความให้ดำเนินคดี น.ส.พิมพ์ประภัสสร แจ่มจำรัส หรือเมย์ อายุ 44 ปี หนึ่งใน “หัวเรือ” หรือ “แม่ทีม” ซึ่งเป็นคนสำคัญชักชวนผู้สนใจร่วมลงทุน

มีการ “ไซโค” ต่อๆกัน

หากชักชวนผู้สนใจร่วมลงทุนได้มากได้สิทธิพิเศษไปเที่ยวต่างประเทศ ทำให้มีผู้สนใจร่วมลงทุนจำนวนมาก ผู้เสียหายในคดีนี้ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนกว่า 5,000,000 บาท แต่หลังจาก “วงแชร์ล่ม” ผู้บริหารบริษัทเริ่มถูกจับกุม น.ส.พิมพ์ประภัสสร เลิกอาชีพแม่ทีมและผันตัวมาเป็นเจ้าแม่สายบุญในปัจจุบัน

ผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังจากไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง และติดต่อผู้ต้องหาไม่ได้ มีการออกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาผู้ต้องหาไม่มาตามหมายเรียก ศาลอนุมัติออกหมายจับ

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. เร่งรัดจับกุมผู้ต้องหา

พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. และพ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนได้ข้อมูลความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีว่า

ผู้ต้องหาทำบุญทุกวันพระ

ปรับเปลี่ยน “ทรงผม” บ่อยครั้งอำพรางตัวเองไม่ให้เป็นที่จดจำของเจ้าหน้าที่ พล.ต.ต.ธีรเดชส่งตำรวจหญิงแฝงตัวร่วมทำบุญและปฏิบัติธรรมในวัดพระธรรมกาย พบผู้ต้องหามีทรงผมใหม่ แต่ตบตาตำรวจไม่ได้

...

น.ส.พิมพ์ประภัสสรปฏิเสธว่า สิ่งที่ทำเป็นการลงทุนจริงๆไม่ได้ฉ้อโกงได้ผลกำไรการลงทุนร้อยละ 7 ต่อเดือน เมื่อได้เงินจริงเริ่มชักชวนคนรอบตัวมาร่วมลงทุนเพิ่ม ถ่ายรูปร้านเพชรและกิจการที่ จ.เชียงใหม่

จนเกิดความน่าเชื่อถือ มีคนสนใจเข้ามาร่วมลงทุนด้วยเป็นจำนวนมาก

ผู้ต้องหาอ้างว่า ปี 2561 บริษัทที่ลงทุนประสบปัญหาจ่ายปันผลไม่ได้เงินตามที่ลงทุนไป ทำให้ไม่ได้นำเงินจ่ายให้คนที่ชักชวนมาจึงเกิดเป็นคดีความ อ้างว่าการเปลี่ยนทรงผมบ่อยครั้ง ลูกชายให้เปลี่ยน เพราะลูกชอบ

ปัจจุบันรูปแบบคดี “อาชญากรรมออนไลน์” มีบทบาทในชีวิตประจำวันประชาชน คนร้ายใช้ช่องทางออนไลน์เป็นเครื่องมือหลอกล่อเหยื่อให้ร่วมลงทุนหรือโอนทรัพย์สิน ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมาก

ขอให้รู้เท่าทันกลโกงเพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม