ธุรกิจผิดกฎหมาย ที่ตอนหลังมาเรียกกันให้รื่นหูหน่อยว่า ธุรกิจสีเทา
ไม่ว่าจะเป็นการพนัน ที่เดี๋ยวนี้เข้าถึงง่ายด้วยการเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์ ค้าของเถื่อน ตั้งแต่บุหรี่ เหล้า เครื่องสำอาง ไปยันน้ำมันเถื่อนที่กำลังฉาวโฉ่
วงการค้าเนื้อสด ที่ไม่ได้อยู่คู่กับสังคมไทยเท่านั้น แต่มันมีกันทั่วโลก!
รวมไปถึงวงการค้ายาเสพติดสารพัดชนิด ที่เมื่อก่อนจะมีแค่ฝิ่น เฮโรอีน เดี๋ยวนี้ต้องยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี และอีกสารพัดชนิดที่จะคิดค้นกันขึ้นมาใหม่ จนประเทศไทยจะกลายเป็นเมืองเอเย่นต์ค้ายาเสพติดของโลกอยู่แล้ว!
ไม่ปั่นป่วนเสียหายไปทั้งประเทศ แล้วจะเรียกว่าอะไร?
ขอเอาข้อมูลของ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) มาโชว์ให้เห็นว่า มันมีมหาศาลแค่ไหน?
ธุรกิจเถื่อน ผิดกฎหมาย นอกระบบในประเทศไทย มีสัดส่วนถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทย (GDP) มูลค่า 8 ล้านล้านบาท!
แบ่งเค้กกันไปตามธุรกิจเถื่อนที่แจกแจงไปข้างต้น
เสียหายอย่างแรกคือ รัฐบาลเก็บภาษีไม่ได้ซักบาท ถ้าเก็บได้คงมีงบประมาณอู้ฟู่ไว้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และเอาไปพัฒนาประเทศโดยไม่ต้องไปกู้เงินมาโปะทุกปีให้เสียเครดิต?
ถามว่า แล้วเงินเหล่านี้ไปไหน ตอบได้เลยว่า ส่วนใหญ่ก็เข้าไปอยู่ในกระเป๋าเจ้าของบ่อน ผู้มีอิทธิพล หรือมาเฟียผู้ดำเนินการ
อีกส่วนหนึ่งเปลี่ยนเป็นส่วยเล็ดลอดมาถึงมือเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานแรกที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ตำรวจ เพราะมีหน้าที่สืบสวนจับกุมธุรกิจมืดที่ว่ามาข้างต้นทั้งหมด!
ถึงจะเป็นแค่เศษตังค์ของขบวนการเหล่านี้ แต่มันเป็นก้อนใหญ่ของชีวิตข้าราชการ
ไม่งั้นมันจะลามปาม เป็นเหตุให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคนทะเลาะกัน จนถูกกล่าวหาดำเนินคดีอยู่ทุกวันนี้หรือ?
...
ถ้าอุดมการณ์ไม่หนักแน่นจริง เงินมันง้างได้หมดแหละ...
สหบาท
คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม