พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช.ฐานะ ผอ.ศปนม.ตร. แจงยิบ รับออกคำสั่งให้ตำรวจชุดน้ำมันเถื่อนหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นเรื่องจริง รอคณะกรรมการสอบสวน บช.ก.รวบรวมหลักฐานเอาผิดอีกครั้ง ย้ำยุคตนต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ใส ซื่อ มือสะอาด ยังเชื่อการทำงานของสอบสวนกลางแม้เป็นต้นสังกัด แต่ถ้าทำไม่ได้จะปลดให้หมดแล้วให้จเรตำรวจลงไปดำเนินการแทน เรื่องทั้งหมดรายงานความคืบหน้านายกฯรับทราบแล้ว สั่งการให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ด้าน “รองเต่า” เร่งออกหมายจับ “เสี่ยโจ้กับผู้จัดการเล็ก” 2 คีย์แมนเรือน้ำมันเถื่อนที่หลบหนี เพื่อประสานตำรวจสากลล่าตัวกลับมาดำเนินคดี เพราะสั่งการมาจากต่างประเทศ ส่วนตำรวจที่เกี่ยวข้องวันที่ 24 มิ.ย.ระบุได้แน่ เตรียมดำเนินการทั้งวินัยและอาญา ด้าน “ปธ.กมธ.ตร.” ปูดคดีใหม่ พบนายตำรวจระดับรอง ผกก.ชื่อย่อ “ส.” เอี่ยวเรือน้ำมันเถื่อนปากพนัง 3 ลำ

กรณีการดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับเหตุเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ความคืบหน้าจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 มิ.ย. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช.ฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปนม.ตร.) เผยว่า วานนี้ (20 มิ.ย.) ได้รายงานความคืบหน้าคดีและการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้นายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว นายกรัฐมนตรีกำชับให้ดำเนินการตรงไปตรงมา ยืนยันว่าตนจะดำเนินการผู้เกี่ยวข้องการกระทำความผิดทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงตำรวจที่มีส่วน เกี่ยวข้องทุกคนถึงที่สุด ตนในฐานะดูแลทั้ง ศปนม.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติขอใช้เป็นหลักประกันว่า จะไม่นำเรื่องนี้มาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ให้เชื่อมั่นการทำงาน ไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ ตั้งแต่ตนรับตำแหน่งจัดเก็บภาษีน้ำมันได้มากขึ้นกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นว่าน้ำมันเถื่อนลดลง

...

พล.ต.อ.ไกรบุญกล่าวต่อว่า ส่วนการป้องกันการขนย้ายน้ำมันทางบก เชิญผู้ประกอบการทั้งหมดมาหารือ ขอเอกสารตารางการเดินรถทุกเส้นทางเพื่อให้มีข้อมูลตั้งต้นว่ารถบรรทุกน้ำมันแต่ละคันเมื่อออกจากแท่นเติมน้ำมันแล้วมีน้ำมันเท่าไหร่ ใช้เส้นทางอะไร ทุกคันต้องผ่านจุดชั่งน้ำหนักของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงจะรายงานมาที่ศูนย์ปราบปรามน้ำมันเถื่อนฯเพื่อติดตามระยะทาง และปริมาณน้ำมันตลอดระยะทางการขนส่ง

“ส่วนแชตสนทนาที่เผยแพร่ออกมา ยอมรับว่าไม่ได้ดูรายละเอียดว่าเกี่ยวกับอะไร แต่คำสั่งให้เจ้าหน้าที่หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นเรื่องจริง ส่วนบุคคลที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องอย่างไร ต้องรอการตรวจสอบของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ที่ตั้งคณะขึ้นมา การสั่งให้หยุดปฏิบัติงานเพื่อให้คนทำงานต้องเป็นคนที่ผมไว้ใจ เพราะผมเน้นเรื่องใจซื่อ มือสะอาด ขอย้ำว่า ยุคผมต้องไม่มีเรื่องทุจริตและการเรียกรับผลประโยชน์” พล.ต.อ.ไกรบุญกล่าว

ถามถึงประเด็น บช.ก.เกี่ยวข้องกับตำรวจน้ำโดยตรง จะสอบสวนให้เกิดความเที่ยงธรรมได้อย่างไร พล.ต.อ.ไกรบุญกล่าวว่า ขอให้เชื่อใจ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.ว่า สามารถทำกระบวนการสอบสวนให้เกิดความสุจริตและเป็นธรรมได้ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมและพบว่าการสอบสวนไม่ตรงไปตรงมา ตนจะนำจเรตำรวจเข้าไปตรวจสอบด้วยตัวเอง และจะสั่งปลดหัวหน้าชุดตรวจสอบ รวมถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติด้วย เขามีหน้าที่ต้องเก็บกวาดบ้านเขา ขอเวลาให้เขาทำงานก่อน ไม่เช่นนั้นเราจะเข้าไปจัดการเอง

ถามว่าข้อสังเกตอัยการที่มองว่า การจับกุม น้ำมันตั้งแต่ครั้งแรกไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย พล.ต.อ.ไกรบุญตอบว่า ตนมั่นใจในพยานหลักฐานมาก เพราะเห็นทั้งหมดแล้ว ฉะนั้นจะสามารถตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้แน่ การเห็นแย้งกันถือเป็นเรื่องดี เพราะทำให้ตำรวจทำงานรอบคอบขึ้น เพื่อหาพยานหลักฐานมาตอบทุกข้อสงสัย มั่นใจสามารถติดตามผู้ต้องหาแม้อยู่ต่างประเทศ ส่วนการติดตามเส้นทางเรือขนาดใหญ่ชื่อ เคนาย (k9) ที่รับขนถ่ายน้ำมันจากเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนของกลางทั้ง 3 ลำ พล.ต.อ.ไกรบุญกล่าวว่า ตอนนี้ไม่รู้ว่าเรืออยู่ไหน ส่วนตัวเชื่อว่าตอนนี้ไม่อยู่ในน่านน้ำไทยแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนและขยายผลจะกวาดล้างให้หมด

พล.ต.อ.ไกรบุญยังกล่าวถึงกรณีนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะประธาน กมธ.ตำรวจ ฝากให้ตรวจสอบ รอง ผกก.ชื่อย่อ“ส.”เอี่ยวค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่อีกราย พบเรือต้องสงสัย 3 ลำ จอดอยู่แม่น้ำปากพนังว่า เรื่องนี้ทราบแล้ว นายชัยชนะประสานข้อมูลมาเช่นกัน เรื่องนี้ตำรวจกองปราบปรามกดดันมากว่า 1 เดือน ตรวจเรือที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเถื่อนได้ข้อมูลหมดแล้ว อยู่ระหว่างสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันไม่ว่าใหญ่ระดับไหน ไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย ใครทำผิดจับหมด ตนคุม ศปนม.ตร.เอาสมาคมชาวประมงมาเป็นกรรมการให้ข้อมูลตำรวจ รับข้อมูลมากขึ้น หลังจับกุมตัวการใหญ่ทำให้เกิดแรงกระเพื่อม การลักลอบทำผิดลดลง ทั้งปีนี้ตนให้งบเชื้อเพลิงกับตำรวจน้ำเพื่อให้ลาดตระเวนและป้องกันมากขึ้น มั่นใจว่าให้แล้วต้องมีผลงานจับกุมเป็นตัวชี้วัด

ส่วนความคืบหน้าจากสอบสวนดำเนินคดีที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวว่า แม้จะตามยึดเรือ ของกลางกลับคืนมาได้ แต่คดียังต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อขยายผลเอาผิดผู้อยู่เบื้องหลัง วันที่ 24 มิ.ย.จะประชุมติดตามความคืบหน้าคดีหารือร่วมกับคณะทำงาน ประกอบด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2.บก.ป.และ พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ. รวมถึงตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง กำหนดทิศทางสำนวนคดีให้แน่นหนาขึ้น รวมทั้งเรื่องตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจะชัดเจนมากขึ้น

“กรณีปรากฏข่าวว่าตำรวจที่ปรากฏชื่อในแชตลับ เป็นตำรวจระดับ รอง ผบช.ก. 2 นาย ขอชี้แจงในส่วนนี้ว่าไม่เป็นความจริง ข่าวที่ปรากฏออกไปน่าจะเป็นการตีความหมายคลาดเคลื่อน เป็นการถามนำของนักข่าวว่าบุคคลที่ปรากฏในแชตเป็น รอง ผบช.ก.หรือไม่ ผมตอบกลับไปว่า ไม่มี ถ้ามีก็สามารถตรวจสอบได้ ขอย้ำตรงนี้ว่าจากข้อมูลที่ปรากฏ ไม่มีนายตำรวจระดับ รอง ผบช.ก.เกี่ยวข้องในแชตดังกล่าว สำหรับคดีขโมยเรือน้ำมันเถื่อน ของกลาง จะเร่งดำเนินการเอาผิดผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ไม่มีข้อยกเว้น และดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าคนอยู่เบื้องหลังจะใหญ่เพียงใดต้องถูกดำเนินคดีเท่าเทียม” รอง ผบช.ก.กล่าว

...

พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ออกมาเปิดเผยข้อมูล พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบ ตำรวจน้ำนายหนึ่ง ระดับรอง ผกก.มีชื่อย่อ ส. ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน ในส่วนนี้ยังไม่ทราบข้อมูลอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขอพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดก่อน

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับแนวทางคดีน้ำมันเถื่อน ชุดคลี่คลายคดีตำรวจสอบสวนกลางกำลังเร่งดำเนินการ เป็นเรื่องการสืบสวนขยายผลหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อเอาผิดผู้อยู่เบื้องหลังหรือตัวการสำคัญของขบวนการ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ การเร่งเอาผิดตัวการสั่งการให้ลูกเรือขโมยเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง กับเร่งเอาผิดตัวการเบื้องหลังขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนทั้ง 5 ลำ ทั้ง 2 กรณีพบว่า มีความเชื่อมโยงถึงกัน เนื่องจากกลุ่มพยานและผู้ต้องหาเป็นกลุ่มคนเดียวกัน การสืบหาพยานหลักฐานเชื่อมโยงตัวการหลักทั้ง 2 กรณี พบความเชื่อมโยงหลายอย่างที่อาจเชื่อมไปถึงตัวการหลักคือ เสี่ยโจ้ และผู้จัดการเล็กผู้สั่งการอยู่เบื้องหลังทั้ง 2 คดี คาดว่าสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับบุคคลทั้ง 2 ได้ภายในสัปดาห์หน้า

มีรายงานข่าวอีกว่า หากศาลอนุมัติคำขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ออกหมายจับเสี่ยโจ้และผู้จัดการเล็กแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีจะเร่งประสานตำรวจกองการต่างประเทศ (ตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ประสานตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ออกเป็นหมายแดง ก่อนประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่เชื่อว่าบุคคลทั้ง 2 คนหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ ให้ช่วยติดตามจับกุมนำตัวเข้ากระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษทางคดีในไทย

ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรี ธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และประธาน กมธ.การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขอชื่นชมกองบัญชาการสอบสวนกลาง ที่ติดตามจับกุมเรือน้ำมันเถื่อนของกลางกลับมาได้ แต่เรื่องน้ำมันเถื่อนยังมีผู้กระทำผิดอีกหลายคน อยากให้ตรวจสอบจริงจังเพราะเป็นผลประโยชน์ของชาติ หากไม่จริงจังจะเสียหายอีกมาก ขอให้ติดตามให้ดีเพราะว่ามีตำรวจเกี่ยวข้องอีกหลายคน ขอฝากให้ไปตรวจสอบรอง ผกก. อักษรย่อ “ส.” ตอนนี้ไม่ทราบว่าตำแหน่งอยู่ที่สงขลาหรือสุราษฎร์ธานี แต่ทราบว่าบ้านอยู่ใน อ.เมืองนครศรีธรรมราช มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรือน้ำมันเถื่อน เป็นคนละกรณีกับก่อนหน้านี้ เมื่อวานมีรายงานมาถึงตนว่า มีเรือต้องสงสัยจอดอยู่ปากแม่น้ำปากพนัง 3 ลำ 1 ในนั้นชื่อ เฟื่องฟ้า ขอให้ไปตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับน้ำมันเถื่อนหรือไม่

...

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่