พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง คุมตัว “เจ๊มด” ผู้จ้างวาน และ ทีมมือปืนที่ตามยิงเสี่ยต้นบนถนน เลียบทางด่วน ถนนประดิษฐ์มนูธรรมไปฝากขังศาลอาญาผัดแรกเป็น เวลา 12 วัน “ทนายเดชา” พาแม่และน้องสาวเหยื่อ ตามไปขอคัดค้านการประกันตัว สะพัดเตรียม 1 ล้านบาท ยื่นศาล แต่หลังหมดเวลายื่นเอกสารขอปล่อยตัวชั่วคราว ไม่มีใครมายื่นประกันตัวทั้ง 3 คน ศาลออกหมายขังส่ง “เจ๊มด” เข้าทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนทีมรับจ้าง ฆ่าอีก 2 คนส่งเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

กรณีชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.4 และฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาง คลี่คลายคดีลอบสังหารนายพิชิต กลีบจินดา หรือเสี่ยต้น อายุ 44 ปี บนถนนเลียบทางด่วนประดิษฐ์มนูธรรม ขณะขับรถกลับจากสถานบันเทิงย่านเอกมัย-รามอินทรา แต่ไม่สำเร็จ ต่อมาไปเสียชีวิตปริศนาที่บ้านใน จ.มหาสารคาม หลังชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับควบคุมตัว น.ส.วรรณิภา หะมาลา หรือเจ๊มด อายุ 37 ปี ภรรยา พร้อมทีมสังหาร ประกอบด้วย นายสาโรจน์ เสือสุวรรณ อายุ 25 ปี ผู้จัดหาอาวุธปืน และนายวีรภัทร สุคนธทรัพย์ อายุ 25 ปี คนขี่รถ จยย.ไปก่อเหตุ ส่วนมือปืนนายณัฐพล ศิริโนนรัง หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน อยู่ระหว่างประสานติดตามตัวมาดำเนินคดี

ความคืบหน้าจาก สน.วังทองหลาง เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 5 มิ.ย. ร.ต.ท.ภคพล ไพบูลย์สมบัติ รอง สว. (สอบสวน) สน.วังทองหลาง พร้อมกำลังควบคุมตัว น.ส.วรรณิภา หะมาลา หรือเจ๊มด อายุ 37 ปี ภรรยาเสี่ยต้น ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังเป็นผัดแรก ข้อหาใช้จ้างวานฆ่า พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอคัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์และมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือหลบหนี ขณะพนักงานสอบสวนควบคุมตัว น.ส.วรรณิภาไปขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขัง ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลเรื่องใดบ้างหรือไม่ น.ส.วรรณิภาตอบว่า ขณะนี้เป็นห่วงลูกทั้ง 3 คนเพียงอย่างเดียว ลูกบอกว่าจะรอกลับไปกินข้าวพร้อมกัน

...

ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนคือ นายสาโรจน์ เสือสุวรรณ อายุ 25 ปี ผู้จัดหาอาวุธปืน ถูกแยกไปคุมขังที่ สน.หัวหมาก และนายวีรภัทร สุคนธทรัพย์ อายุ 25 ปี ทำหน้าที่ขี่รถ จยย.ถูกนำไปคุมขังที่ สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจของแต่ละโรงพักคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปส่งศาลอาญาฝากขังพร้อมกัน พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เจ้าของคดีจะยื่นคำร้องฝากขังพร้อมกัน และคัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้องฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 3 คน

ที่ศาลอาญา เวลา 11.00 น. พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง นำตัวนายสาโรจน์ เสือสุวรรณ ผู้ต้องหาที่ 1 นายวีรภัทร สุคนธทรัพย์ ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.วรรณิภา หะมาลา หรือเจ๊มด ผู้ต้องหาที่ 3 ตามหมายจับศาลอาญา มาขออำนาจศาลฝากขังเป็นครั้งแรก ข้อหาใช้จ้างวานฆ่า พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และยิงปืนในที่สาธารณะ อ้างว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องสอบพยานบุคคลอีก 10 ปาก และรอผลพิสูจน์ต่างๆ พร้อมขอคัดค้านการประกันตัว ศาลไต่สวนคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-17 มิ.ย.

ในเวลาเดียวกันนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ พร้อมด้วย น.ส.ปภาพินท์ กลีบจินดา อายุ 63 ปี มารดา และ น.ส.ณัฐปภัษร์ หรือเจ ธนภัคนันท์หิรัญ อายุ 42 ปี น้องสาวเสี่ยต้น เจ้าของธุรกิจสอนสปาและนวดแผนไทย เดินทางมาที่ศาลอาญาด้วย เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลขอคัดค้านการประกันตัว น.ส.วรรณิภา หรือเจ๊มด กับพวกรวม 3 คนในคดีจ้างวานฆ่า

ทนายเดชากล่าวว่า วันนี้ตนพาแม่และน้องสาวของเสี่ยต้นมายื่นคำร้องคัดค้านหรือปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้ง 3 คน ผู้ต้องหา 2 คนให้การยอมรับสารภาพทั้งหมด รวมถึงซัดทอดไปยัง น.ส.วรรณิภา หรือเจ๊มด ว่าเป็นผู้จ้างวานฆ่า ประกอบกับพยานหลักฐานต่างๆ สามารถทําให้เชื่อว่า เจ๊มดภรรยาของเสี่ยต้นกระทําผิดจริง เกรงว่าหากปล่อยไปอาจหลบหนีหรือเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และที่สำคัญคือผู้ต้องหาที่เป็นมือปืนยังอยู่ระหว่างการหลบหนี รวมถึงครอบครัวของเสี่ยต้นยังถูกเบอร์แปลกๆโทร.เข้ามาก่อกวนอีกด้วย

“ส่วนกรณีการเสียชีวิตปริศนาของเสี่ยต้นที่ จ.มหาสารคาม มีความคืบหน้าประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ พบว่าหลังศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ทําให้ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มให้การเป็นประโยชน์ แม้ศพจะถูกเผาไปแล้วก็สามารถใช้พยานหลักฐานอื่นมาประกอบในสำนวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มได้ เหมือนกับคดีแอมไซยาไนด์ แม้เผาร่างผู้เสียชีวิตไปแล้วก็ยังมีหลักฐานที่สามารถเอาผิดผู้กระทําผิดเพิ่มได้เช่นกัน” ทนายเดชากล่าว

ด้าน น.ส.ณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ น้องสาวเสี่ยต้น ยอมรับว่า ยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะเนื่องจากยังมีผู้ต้องหาอีก 1 คน ซึ่งเป็นมือปืนอยู่ระหว่างการหลบหนี อีกทั้งเมื่อประมาณวันที่ 27-28 พ.ค. มีเบอร์ปริศนาโทร.มาปั่นป่วนหลวงพ่อซึ่งเป็นบิดาของเสี่ยต้นในลักษณะก่อกวน เบื้องต้นทางครอบครัวบล็อกเบอร์ดังกล่าวและแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ น.ส.วรรณิภา ภรรยาของเสี่ยต้น ไม่ยอมให้การในชั้นสอบสวนจะเป็นการพลิกคดีในชั้นศาลหรือไม่ นายเดชาระบุว่า การที่ภรรยาของเสี่ยต้นไม่ให้การใดๆในชั้นพนักงานสอบสวน ทางกฎหมายถือเป็นข้อพิรุธ เนื่องจากหากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้างวานฆ่า ก็ควรจะต้องรีบให้การกับพนักงานสอบสวนโดยเร็ว เพราะการอ้างว่าจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น อาจทำให้ศาลยกประโยชน์ให้แก่โจทก์และไม่รับฟังคำให้การของจำเลย ตนจึงขอขอบคุณภรรยาของเสี่ยต้นที่ไม่ให้การใดๆในชั้นพนักงานสอบสวน เพราะก่อให้เกิดประโยชน์ทางคดีแก่ฝั่งครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก

นายเดชากล่าวอีกว่า ทราบข่าวว่าทนายความของ น.ส.วรรณิภา เตรียมยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นศาลเป็นเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ตนไม่ทราบ แต่เนื่องจากผู้ต้องหาอีก 2คนให้การรับสารภาพ คาดว่าศาลอาจมีดุลพินิจไม่ให้ประกันตัว แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลจะพิจารณา

...

ต่อมาเวลา 16.30 น. สิ้นสุดเวลายื่นเอกสารขอปล่อยตัวชั่วคราว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไม่มีทนายความ ญาติพี่น้อง หรือผู้เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมายื่นประกันตัวระหว่างฝากขังอย่างที่มีกระแสข่าว ศาลจึงออกหมายขังให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวเจ๊มดไปควบคุมตัวที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนนายสาโรจน์ เสือสุวรรณ อายุ 25 ปี คนจัดหาอาวุธปืน และนายวีรภัทร สุคนธทรัพย์ อายุ 25 ปีทำหน้าที่ขี่รถ จยย.ไปยิงเสี่ยต้น ส่งตัวไปควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่