รองผบช.น. ร่วม กก.ดส. โชว์ผลงาน จับขบวนการค้ายาเสพติด รวบแก๊งไรเดอร์ค้ายา ค้นบ้าน พบของกลางเพียบ อ้างทำมาแล้ว 5 เดือน โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 80,000 บาท ตำรวจเตรียมขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้อง


เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 23 พ.ค. 67 ที่ สน.บางมด พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผบช.น. เป็นประธานปล่อยแถวปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับนายอุดมชัย โลหณุต ผอ.ปปส.กทม. ภายใต้โครงการ "เด็ดปีกนักค้า รักษาผู้เสพ" สร้างชุมชนปลอดภัยยาเสพติด วางเป้าหมาย ปฏิบัติการจำนวน 62 เป้าหมาย 


พล.ต.ต.ทินกร เปิดเผยว่า จากการร่วมมือของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมปปส. และ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี  โดยในการปฏิบัติการครั้งนี้ นอกจากการปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดในชุมชน ได้มีการตรวจยึดของกลางและผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ที่เป็นแหล่งซุกซ่อนยาเสพติด โดยของกลาง คือ ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) จำนวน 6.95 กิโลกรัม / ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 100,000 เม็ด / ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) จำนวน 78.3 กรัม / วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 (คีตามีน) จำนวน 22.38 กิโลกรัม / อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก /เครื่องกระสุนปืน จำนวน 21 นัด /รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน /โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง

...


พฤติการณ์ของผู้ต้องหาคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กก.ดส. สืบสวนทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าทั่วไปภายในพื้นที่ชุมชนวัดทองเพลง แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียง โดยกลุ่มดังกล่าวมีพฤติกรรมในการรับ-ส่งยาเสพติด โดยการปลอมตัวเป็นพนักงานไรเดอร์ใช้รถจักรยานยนต์มีกล่องพัสดุไว้ด้านหลัง เพื่อขนยาเสพติดอำพรางด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งให้กับลูกค้าทั่วไปกระทั่งตามวันเวลาจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนจนทราบว่ากลุ่มยาเสพติดดังกล่าวใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมีกล่องพัสดุด้านหลัง เพื่อไปรับยาเสพติดมาเก็บไว้เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนขอตรวจค้นจับกุมผลการตรวจค้นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพบวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 (คีตามีน) จำนวน 21 กิโลกรัม จึงนำตัวเข้าตรวจค้นขยายผล พบยาเสพติดและของกลางจำนวนมาก


จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ชุมชนดังกล่าวจริงทำมาแล้วประมาณ 5 เดือน โดยไปรับยาเสพติดจากผู้ค้ารายใหญ่ เดือนละ 2–3 ครั้ง และนำมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อรอส่งให้ลูกค้า ได้รับค่าจ้างครั้งละ 80,000 บาท และได้นำยาเสพติดที่รับมาออกจำหน่ายให้ลูกค้ารายย่อยทุกวัน วันละ 4–5 ครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหามาทำการซักถามและขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง


รองผบช.น. เน้นย้ำเรื่องของยาเสพติดว่า ในยุคปัจจุบัน ยาเสพติดแพร่ระบาดหนักในชุมชน ซึ่งมีทั้งผู้ค้า และผู้เสพ จึงต้องรีบตรวจขันและจับกุม ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด เพื่อที่จะไม่ให้ระบาดไปในพื้นที่ชุมชน ที่จะเป็นเหตุที่จะก่อให้เกิดอาชญากรรม สร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชน และความเสียหายของชาติ จึงฝากถึงพี่น้องประชาชนหากพบผู้ต้องสงสัยที่เป็นผู้ค้ายาเสพติด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร่งด่วน ส่วนผู้เสพจะนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อไป