“ปวีณา” พาแม่ไปรับศพลูกสาว เสียชีวิตปริศนาหลังอยู่กินกับสามีชาวบาห์เรนแล้วติดต่อไม่ได้ กระทั่งพบศพมีร่องรอยช้ำตามตัว แม่สงสัยอาจถูกสามีทำร้ายเสียชีวิต คนไทยในบาห์เรนร่วมบริจาคเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินการส่งศพกลับ ขณะที่ “ปวีณา” ประสานสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ส่งศพชันสูตรเพื่อหาสาเหตุ

“ปวีณา” พาแม่รับศพสาวไทยเสียชีวิตที่ประเทศบาห์เรน ส่งนิติเวชชันสูตรศพ เปิดเผยเมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 16 พ.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พานางเอม (นามสมมติ) ผู้เป็นแม่ เดินทางไปรับศพ น.ส.บี (นามสมมติ) ลูกสาวอายุ 31 ปี ที่เสียชีวิตปริศนาที่ประเทศบาห์เรน มีนายนิทัศน์ กมลเวคิน ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ AOT และ พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในการรับศพออกจากสนามบิน ศพถูกส่งกลับมาประเทศไทยได้รับการประสานงานของนางปวีณา กระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตไทยในบาห์เรน และคนไทยในบาห์เรนรวบรวมเงินบริจาคทั้งสิ้น 92,087.56 บาท ช่วยเหลือเป็นค่าดำเนินการและร่วมทำบุญจัดงานศพ จากนั้นนางปวีณาประสานสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ส่งศพ น.ส.บี ไปชันสูตรทันทีตามที่แม่และญาติของผู้เสียชีวิตได้ร้องขอความช่วยเหลือ

นางเอมเปิดเผยว่า ครอบครัวของแม่ฐานะยากจน ลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อปี 2564 ลูกสาวตัดสินใจไปทำงานที่ประเทศบาห์เรนหาเงินส่งมาให้แม่เลี้ยงดูลูกน้อยอีก 3 คน กระทั่งต้นปี 66 ลูกสาวบอกว่าได้อยู่กินกับสามีชาวบาห์เรน และลูกจะวิดีโอคอลมาคุยด้วยตลอด บางครั้งให้ดูรอยเขียวช้ำตามตัวและเล่าว่าถูกสามีทำร้าย ก่อนที่ลูกสาวจะขาดการติดต่อไปตั้งแต่ 15 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ลูกสาวคนโตกับคนเล็กพยายามโพสต์ตามหา น.ส.บี แต่ไร้วี่แวว

...

นางเอมเผยอีกว่า กระทั่งเวลาผ่านมา 1 ปี วันที่ 18 เม.ย.67 ครอบครัวได้รับการติดต่อจากสถานทูตว่า พบศพหญิงสาวนิรนามตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.66 ศพถูกเก็บไว้ที่โรงพยาบาลซัลมาเนีย ประเทศบาห์เรน แพทย์ที่บาห์เรนระบุสาเหตุการตายว่า “ปอดและหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นพิษ” แม่ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะเห็นในรูปถ่ายของศพมีรอยช้ำตามตัว คิดว่าลูกสาวอาจจะถูกสามีทำร้ายเสียชีวิต เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

“หลังศพผ่าชันสูตรแล้ว แม่จะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดมะเกลือ ย่านจอมทอง-ดาวคะนอง กรุงเทพฯ ขอขอบคุณนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ที่ช่วยเหลือประสานนำศพลูกสาวกลับมาไทย และขอบคุณน้ำใจคนไทยที่บริจาคเงินช่วยเหลือทั้งสิ้น 92,087.56 บาท โอนเข้าบัญชีแม่ แม่ได้จ่ายให้กับสถานทูตไทยในบาห์เรนเป็นค่าดำเนินการส่งศพกลับเป็นเงิน 80,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือ 12,087.56 บาท จะใช้ในการจัดงานศพ”นางเอมกล่าว

นางปวีณา หงสกุล เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของ น.ส.บี และขอขอบคุณน้ำใจคนไทยที่บริจาคเงินช่วยเหลือ 92,087.56 บาท เป็นค่าดำเนินการส่งศพกลับและทำบุญช่วยงานศพ หลังจากนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ หาสาเหตุการเสียชีวิตตามที่แม่ร้องขอและจะให้ความช่วยเหลือในงานฌาปนกิจศพต่อไป ทั้งนี้ ขอเตือนสาวไทยที่คิดจะเดินทาง

ไปทำงานต่างประเทศควรจะตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เนื่องจากเสี่ยงที่จะถูกหลอกค้าประเวณี ค้ามนุษย์ บังคับให้เสพยาเสพติด บางรายถึงขั้นถูกทำร้ายทุบตีจนเสียชีวิต จากสถิติมูลนิธิปวีณาฯตั้งแต่ปี 2547-2565 มีสาวไทยถูกหลอกไปค้าประเวณีในต่างประเทศที่เป็นอันดับ 1 คือ บาห์เรน จากนั้นในปี 2566 สาวไทยถูกหลอกไปค้าประเวณีถึง 219 ราย อันดับ 1 คือ ดูไบ 56 ราย อันดับ 2 คือ เมียนมา 54 ราย อันดับ 3 คือ บาห์เรน 25 ราย เจ้าหน้าที่อาจจะช่วยเหลือไม่ได้ทุกราย มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือสาวไทยที่เสียชีวิตในต่างประเทศตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.2567 หญิงไทยเสียชีวิตประเทศมาเลเซีย 3 ราย ประเทศบาห์เรน 2 ราย ไม่ทราบสาเหตุหลายราย ติดตามได้ยากเพราะเป็นการเสียชีวิตที่ต่างประเทศ

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่