“บิ๊กต่าย” รรท.ผบ.ตร. ยันผลงานตำรวจไซเบอร์ มีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายช่วงเดือนกันยายนนี้อย่างแน่นอน ย้ำต้องขยายผลลงลึก ขับเคลื่อนให้มากขึ้น ทำงานหนักมากกว่านี้ 

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังไม่พอใจผลการปฏิบัติงานของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ตามกำหนด 30 วันเท่าที่ควร ในขณะที่ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ระบุว่าค่อนข้างพอใจกับผลงานของตำรวจไซเบอร์ ว่า ตำรวจไซเบอร์ได้ขับเคลื่อนและสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับเรื่องการหลอกลวงการพนันออนไลน์เป็นจำนวนมาก แต่ว่านายกรัฐมนตรีอยากให้เร่งรัดปราบปรามมากขึ้นอีก ตนเชื่อว่าผลงานของตำรวจไซเบอร์เป็นที่ประจักษ์และเพิ่มมากขึ้นแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตนอยู่ในฐานะรักษาราชการแทน ก็ได้กำชับตำรวจไซเบอร์และทุกกองบัญชาการว่าสิ่งที่ปรากฏผลงานเป็นที่ประจักษ์อยู่ทุกวันนี้ ถือเป็นการทำงานตามหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ต้องขับเคลื่อนให้มากขึ้น ในสายตาตนเองยังคิดว่าต้องทำให้มากกว่านี้เช่นกัน ตนก็ต้องไปกำกับ กำชับ และให้รอง ผบ.ตร. ช่วยลงไปดู ซึ่งยังพบเห็นอยู่ว่ายังมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผู้ลักลอบหรือเปิดการพนันออนไลน์อยู่บ้าง แต่ก็ต้องทำงานกันมากกว่านี้ ไม่ได้หมายความว่าผลงานดีหรือจับได้เยอะแล้ว แบบนี้ไม่ได้ ถ้าตอบโดยรวมคือยังต้องทำงานให้หนักและมากขึ้นกว่านี้

ถามว่าทำไมต้องกำชับอยู่ตลอดเวลา รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า เพราะตำรวจไซเบอร์มีหน้าที่อยู่แล้ว แต่ในเมื่อมีข่าวสารและมีข้อมูลในกรณีที่มีการกล่าวหาตำรวจไปร่วมกระทำผิดในเรื่องการพนันออนไลน์ ก็ย่อมที่จะต้องกวดขัน เร่งรัดในการทำงาน เพื่อให้สังคมได้รับทราบอย่างชัดเจน ว่านับจากนี้ไปจะต้องไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น ถ้ามีก็ต้องดำเนินการตามมาตรการขั้นเด็ดขาดกับตำรวจที่นอกลู่นอกทาง โดยที่ไม่อยากไปกำหนดกฎเกณฑ์ แต่สิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไว้ว่า 30 วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมผลงานของตำรวจไซเบอร์ ว่าเป็นไปตามนโยบายและได้ขับเคลื่อนไปจริงจังมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการจับกุมแต่ละครั้งต้องขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการ ลูกค้า บัญชีม้า รวมทั้งการเฉลี่ยทรัพย์คืนผู้เสียหาย ถ้าทำได้แบบนี้ทุกรายถึงจะพอใจ แต่ตอนนี้ต้องขยายผลและขอรอดูเรื่องการขยายผลของตำรวจไซเบอร์ว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน

...

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ผลการปฏิบัติงานของตำรวจไซเบอร์และหน่วยอื่น จะมีผลต่อการพิจารณาโยกย้ายในช่วงเดือนกันยายนนี้อย่างแน่นอน และจะลึกลงไปในเรื่องของรายละเอียด ไม่ใช่เพียงสถิติตัวเลข และเชื่อว่าไม่ได้เป็นไฟไหม้ฟาง มั่นใจว่าจะต้องเดินหน้าและขับเคลื่อนไปได้