"ดาบ ส." ผบ.หมู่ (จร.) สภ.เมืองขอนแก่น ให้การภาคเสธ อ้างให้ผู้เสียหายทั้ง 3 คนโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ "มธุรส" สาวคนสนิทจริง แต่เป็นการฝากจ่ายค่าปรับ ขณะที่ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เผยผลสอบข้อเท็จจริง พบมีมูลความผิดจริง เข้าข่ายความผิดมาตรา 157/149 โทษขั้นสูงสุดคือไล่ออกจากราชการ

จากกรณีโลกโซเชียลในจังหวัดขอนแก่น มีการโพสต์ข้อความระบุว่า "เจอจับ..จ่ายจบ..!!! โดนจับ ค่าปรับเข้ากระเป๋าใคร!! จร.ขี่ตามจับรถออกใบสั่งปรับ 2000 ถ้าไม่มีเงินจ่าย เอารถไปโรงพัก จ่ายค่าปรับตอนนี้ เหลือ 1000 เข้าบช. พร้อมเพย์ ชื่อ มธุรส โอนจ่ายไม่มีใบเสร็จ โอนเสร็จปล่อยกลับ ยอมจ่ายค่าปรับ แต่ตรวจสอบได้มั๊ยว่าเงินเข้า บช.ใคร ทำไมไม่มีใบเสร็จ มีหลักฐานใบสั่งและสลิปโอนเงินโดนปรับคนละ 1000 สองคน อีกคน 500 จับจ่ายจบ ทำแบบนี้บ่อยมั๊ย มีใครเคยโดนแบบนี้บ้างแจ้งได้!! . #เจอจับจ่ายจบ #มธุรส #ปรับ2000 #ไม่ต้องไปโรงพัก #ขอนแก่นจับรถ"

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 นางสาวมธุรส อุ่นทะยา อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ เดินทางเข้าพบคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่งานจราจร สภ.เมืองขอนแก่น โดยมากับบิดา และให้ปากคำกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงประมาณ 2 ชั่วโมง ก็เดินทางกลับทันที โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด

...

  

ในขณะเดียวกันคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็สอบสวน ดาบ ส. ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (จร.) สภ.เมืองขอนแก่น ต่ออีกประมาณ 2 ชั่วโมง ดาบ ส. ก็เดินทางออกจากห้องของคณะกรรมการเดินทางกลับทันที ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเช่นกัน

ต่อมาในเวลา 17.30 น. พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีของ ดาบ ส. นั้น โดยเริ่มจากคณะกรรมการฯ ได้สอบสวนประชาชน 3 ราย ที่ได้ทำการโอนเงินจ่ายค่าปรับในบัญชีพร้อมเพย์ที่ ดาบ ส.ให้ไป รายละ 1,000 บาท จำนวน 2 ราย และ 500 บาท 1 ราย  

การตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมฯ ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยวันนี้มีผู้เสียหาย 3 คน มาพบกับคณะกรรมการฯ ให้การตรงกันว่า โอนเงินเป็นเงินค่าปรับไปยังบัญชี น.ส.มธุรส ยืนยันว่าโอนเงินค่าปรับไปให้จริง ตามที่ปรากฏในข่าว

ส่วน ดาบ ส. ให้การภาคเสธ รับว่าให้ทั้ง 3 คนโอนเงินเข้าบัญชีคนสนิทจริง แต่เป็นการฝากจ่ายค่าปรับ ซึ่งในทางการสอบสวน ทางผู้ถูกร้องจะให้การอย่างใดก็ได้ แต่ในหลักการไม่สามารถทำได้ และพบว่ามีมูลความผิดจริง เข้าข่ายความผิดในมาตรา 157 และ 149 โทษสูงสุดคือให้ออกและไล่ออกจากราชการ 

“หลังจากนี้ทางคณะกรรมการฯ ก็จะสรุปผลการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรายงาน ส่งผลไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ลงความเห็นเอาผิดทางวินัยได้ทันที ส่วนทางอาญานั้น ภายหลังพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องก็จะส่งเรื่องต่อไปยัง ป.ป.ช. เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ จะมีความผิดในส่วนของอาญามาตรา 157 และ 149 เรียกรับผลประโยชน์ เมื่อพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องแล้ว ก็จะส่งต่อไปยัง ป.ป.ช. เนื่องจากไม่มีอำนาจสอบสวนได้เอง เว้นแต่ทาง ป.ป.ช.จะมอบอำนาจให้ทางตำรวจเป็นผู้สอบสวน” 

ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวอีกว่า ในส่วนของ มธุรส นั้น จะเป็นในส่วนของการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในส่วนใดบ้างหรือไม่ มีความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้าหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอผลการสอบสวนอีกครั้ง และในเรื่องของการโอนเงินค่าปรับนั้น จะต้องโอนเข้าบัญชีของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น หากพบการกระทำดังกล่าว ให้ประชาชนสันนิษฐานได้ก่อนเลยว่าเป็นการกระทำความผิด ให้ปฏิเสธการจ่าย แล้วเข้ามาจ่ายที่สถานีตำรวจใกล้ที่เกิดเหตุแล้วแจ้งหัวหน้าสถานีนั้นๆ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย 

สุดท้ายอยากจะให้ความเชื่อมั่นกับสื่อมวลชนและประชาชน ว่า เราไม่ได้นิ่งนอนใจ หากเห็นการกระทำความผิดแล้วก็พร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด