จับแล้ว อภิมหาการโจรกรรม เงินสด 37 ล้าน จากบ้านหรู หมู่บ้านจัดสรร ต.แม่เหียะ ตำรวจตามรวบได้คาหอพัก พร้อมของกลางเงินสดเป็นกระสอบ เพิ่งใช้เงินไปแค่ 3 แสนบาท ผู้ต้องหา 2 คน อ้างเอามาแค่เงินสด ส่วนทอง พระเครื่องล้ำค่ากว่า 35 ล้านนำไปทิ้งกองขยะ

จากกรณีอภิมหาการโจรกรรมเงินสดทรัพย์สินเกือบ 80 ล้านบาท ในบ้านหรู หมู่บ้านจัดสรร ต.แม่เหียะ ท้องที่ สภ. เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ชุดสืบสวน ภ. จว. เชียงใหม่ และชุดสืบสวน ภ. 5 ทำการตรวจเช็กกล้องวงจรปิดเส้นทางคนร้ายหลบหนีและจุดทิ้งของกลางอำพรางคดีจุดต่าง ๆ จนรวบรวมหลักฐานพยานชัดเจน และรู้ตัวกลุ่มคนร้าย มาจากธุรกิจไลฟ์โค้ชทางโซเชียล ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซื้อขายตึกคอนโดฯ บ้าน จนมีเงินมหาศาล แล้วระแวงกันจนเป็นที่มาของการโจรกรรมเงินสด ผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่


ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ว่า ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ตามเช็กกล้อง เส้นทางหลบหนีจุดต่างๆ จนรู้ตัวเป้าหมายจนจับกุมได้ในที่สุด โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณลานจอดรถด้านหน้า พีพี ดอนโดตึก F 108 ถ.อนุวิถี ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ และริมถนนมูลเมือง ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 12.30 น. ผู้ต้องหาทราบชื่อ นายภูดิศ หรือรุจ ชลิตชินภัทร อายุ 39 ปี ที่อยู่ ถ.สุริยวงค์ ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และนายอดิศักดิ์ หรือศักดิ์ วงค์คม อายุ 45 ปี ที่อยู่ หมู่ 13 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

...

ยึดของกลาง ประกอบด้วย ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 8,000,000 บาท บรรจุถุงดำซ่อนในกระเป๋าเดินทางสีฟ้า ใบที่ 1, ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 4,000,000 บาท อยู่ภายในถุงดำซ่อนในกระเป๋าเดินทางสีฟ้า ใบที่ 2, ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 12,000,000 บาท อยู่ในถุงดำซ่อนในกระเป๋าเดินทางสีฟ้า ใบที่ 3, ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 2,000,000 บาท อยู่ในลิ้นชักในตู้เสื้อผ้า, ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 4,100,000 บาท อยู่ในถุงดำในตู้เสื้อผ้า, ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 6,000,000 บาท อยู่ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง ตลับใส่เครื่องประดับสีน้ำตาล ยี่ห้อออโรร่า จำนวน 2 ตลับ มีตุ้มหูเพชร ตลับละ 1 คู่ และอีก 1 ตลับเปล่า, ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 983,000 บาท อยู่ในถุงพลาสติกใส จำนวน 3 ถุง 


ตำแหน่งที่พบของกลาง ของกลางรายการที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6 และ 7 พบภายในห้องหมายเลข 403 ชั้น 4 หอพักฯ ถนนหน้าวัดหนองป่าครั่ง ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และของกลางอีก 1 รายการ พบอยู่ในหัวเตียงในห้องนอนบ้านเลขที่ 21/5 ม.13 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แจ้งข้อหา ความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น โดยใช้ยานพาหนะ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป, โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”


ต่อมา เวลา 08.00 น. วันที่ 19 เม.ย. 67 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ ได้นำตัวนายภูดิศ หรือรุจ ชลิตชินภัทร อายุ 39 ปี นายอดิศักดิ์ หรือศักดิ์ วงค์คม อายุ 45 ปี  พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 36.98 ล้านบาท มาแถลงข่าวอีกครั้งว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากกลางดึกคืนวันที่ 11 เม.ย. 67 ได้มีคนร้ายเข้าไปงัดแงะบ้านหรูแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แม่เหียะ โดยคนร้ายได้กวาดเอาทรัพย์สินภายในบ้าน อาทิ เงินสดจำนวน 38.7 ล้านบาท พระเครื่องเลี่ยมทอง 15 องค์ มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท พระเครื่องสำคัญอีกกว่า 300 องค์ มูลค่า 20 ล้านบาท ทองคำอื่นๆ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปกว่า 76 ล้านบาท ก่อนคนร้ายหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่จึงติดตามจากกล้องวงจรปิด พบรถจยย. ของคนร้าย ที่เข้ามาก่อเหตุ และติดตามเส้นทางการหลบหนีอื่นๆ จนกระทั่งรู้ว่าคนร้ายทั้งสองคนร่วมก่อเหตุ จึงนำกำลังบุกเข้าจับกุมและยึดของกลางที่ซุกซ่อนไว้ในห้องได้จำนวนมาก 


พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับผู้เสียหายเป็นอย่างดี เพราะร่วมทำการค้ากันมานานกว่า 10 ปี โดยผู้เสียหายเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ซื้อบ้าน หอพัก คอนโดฯ มารีโนเวต แล้วขายต่อ ทำให้ต้องเก็บเงินสดไว้จำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นไลฟ์โค้ชทางยูทูบชื่อดังอีกด้วย ส่วนผู้ต้องหานั้นเปิดบริษัททำกลอนประตู และทำธุรกิจกับผู้เสียหาย  แต่ช่วงประมาณ 2 ปีที่ผ่านมาเกิดขัดแย้งทะเลาะกันเรื่องเงิน จากการทำงานทำให้ผู้ต้องหาแค้นใจอย่างมาก ที่ทำงานแล้วได้เงินไม่ครบ จึงอาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายไม่อยู่บ้าน ลอบเข้าไปสะเดาะกลอนประตู และโจรกรรมทรัพย์สินของผู้เสียหายออกมาทั้งหมด โดยเก็บแต่เงินสดไว้ ส่วนทองคำ พระ ห่อใส่ถุงขยะทิ้งไว้ในกองขยะริมถนน ซึ่งตำรวจกำลังจะไปเช็กกล้องวงจรปิด และหาว่าของกลางเหล่านั้นอยู่ที่ไหน ใครเอาไป ส่วนเงินสดที่ได้คืนมาแม้ไม่ครบ เพราะผู้ต้องหาเอาไปซื้อทองกับรถยนต์ ซึ่งจะมีการสอบปากคำเพื่อติดตามทรัพย์สินมาคืนให้ผู้เสียหายต่อไป