ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ดำเนินสะดวก ใช้ปืน .38 ซุปเปอร์ ยิงชายนิรนามบุกมาที่บ้านในสวนมะพร้าว ปากพึมพำคล้ายท่องบ่นคาถา ตาขวาง พูดจาไม่รู้เรื่อง ทั้งยิงขู่ขึ้นฟ้า ยิงลงพื้นแล้ว แต่ยิ่งเดินเข้าหาเลยต้องยิงใส่ตัว วิ่งไปตกร่องสวนเสียชีวิต
เวลา 19.00 น. วันที่ 5 เม.ย. 67 ร.ต.อ.ธนเดช โคลงพิมาย รอง สว.(สอบสวน) สภ.หลักห้า ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตภายในร่องสวนมะพร้าว บริเวณบ้านเลขที่ 131 หมู่ 3 ต.บัวงาม อ.ดำเนินสะดวก หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงาน พ.ต.อ.ณัฏฐ์ พิพัฒน์สวัสดิ์ ผกก.สภ.หลักห้า ก่อนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม จนท.พิสูจน์หลักฐาน และจนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี
ที่เกิดเหตุภายในร่องสวนมะพร้าวติดบริเวณบ้าน พบร่างชายไม่ทราบชื่อและสัญชาติ สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน และสวมรองเท้าผ้าใบสีดำ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ริมร่องสวนมะพร้าว ตำรวจจึงให้กู้ภัยฯ นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นชันสูตร เบื้องต้นไม่พบเอกสารยืนยันบุคคล แต่คาคว่าเป็นชาวเมียนมา จากการตรวจสอบร่างกาย พบถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณหน้าท้อง 1 นัด สะโพกซ้าย 1 นัด และขาขวา 1 นัด พร้อมยังพบปลอกกระสุนอาวุธปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ จำนวน 6 ปลอกตกอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ
จากการสอบสวน นายธนายุทธ ยิ้มแย้ม อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บัวงาม และเป็นคนยิงชายคนดังกล่าวให้การว่า เมื่อช่วงประมาณ 18.30 น. ชายคนดังกล่าวได้บุกรุกเข้ามาภายในพื้นที่บริเวณสวนมะพร้าว ซึ่งขณะนั้นมีเพียงพี่สาว น้องสาว หลานสาว และลุงที่ป่วยอยู่ภายในบ้านสวนที่เกิดเหตุ ก่อนที่ผู้เป็นแม่ให้พี่สาวโทรมาแจ้งให้ตนทราบ เพื่อเข้ามาช่วยเหลือ เพราะชายคนดังกล่าวมีพฤติกรรมคล้ายคนเมา และมีลักษณะตาแดงตาขวาง แถมยังพูดจาไม่รู้เรื่อง ทั้งยังพยายามบุกเข้าไปภายในบ้าน
...
หลังตนทราบเรื่องจึงรีบมาที่บ้านสวนที่เกิดเหตุ พร้อมโทรแจ้งตำรวจสายตรวจ ตอนที่มาถึงจุดเกิดเหตุ ก็พบชายคนดังกล่าวเดินวนเวียนอยู่บริเวณหน้าบ้าน ตนจึงไล่ให้ออกไปจากสวน แต่ผู้ตายกลับเดินเข้าใส่จะทำร้ายจนต้องถอยหนี พร้อมสังเกตเห็นชายคนดังกล่าวตาแดงและตาขวาง พูดจาไม่รู้เรื่อง บางครั้งมีการพูดเหมือนท่องมนตร์คาถา ก่อนจะปรี่เข้าใส่ตนอีกครั้ง ซึ่งขณะนั้นตำรวจที่ตนโทรแจ้งยังไม่มาถึง ทำให้ตนต้องชักปืนออกมาขู่
แต่แทนที่ชายคนดังกล่าวจะกลัว กลับเดินเข้าปรี่ใส่อีก พร้อมจะใช้ของที่อยู่ในมือขว้างใส่ตน จึงยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า 1 นัด แล้วบอกให้ถอยออกไป แต่กลับเดินปรี่เข้าใส่ตนอีกครั้ง ทำให้ต้องยิงปืนลงพื้นเพื่อเป็นการขู่อีก 2 นัด แต่อีกฝ่ายเหมือนมีอาการคลุ้มคลั่ง จะเข้ามาทำร้ายอีก ทำให้ต้องยิงใส่หลายนัด ซึ่งตนพยายามยิงเน้นช่วงบริเวณขา ก่อนชายดังกล่าวจะวิ่งหนีเข้าไปในร่องสวนมะพร้าว ตนจึงวิ่งตามไปดู
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ให้การอีกว่า หลังจากยิงแล้ว ชายคนดังกล่าวยังพยายามหาสิ่งของภายในสวน จึงตะโกนบอกให้นั่งลง แต่เขากลับไม่นั่ง แถมพูดคล้ายท่องมนตร์คาถา และพูดจาเป็นภาษาอะไรก็ไม่รู้ จึงเฝ้าดูอยู่ห่างๆ เพื่อรอให้ตำรวจสายตรวจมาถึง แต่สักพักตนก็ได้ยินเสียงชายคนดังกล่าวตกลงไปในคลอง ตนจึงรีบเข้าไปดูก่อนจะช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำมาอยู่ริมตลิ่ง และช่วยปั๊มหัวใจ แต่สุดท้ายก็แน่นิ่งไป จนตำรวจที่โทรแจ้งไปมาถึงที่เกิดเหตุ ตนจึงเล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟัง และมอบอาวุธปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ ให้ตรวจสอบ
ขณะที่ น.ส.คัทรียา อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านและพี่สาวของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเล่าว่า ตอนช่วงเวลา 18.30 น. เห็นว่าผู้ตายหลบซ่อนตัวอยู่ในดงกล้วยหน้าบ้าน และเดินวนไปวนมาในพื้นที่บริเวณบ้าน โดยมีอาการคล้ายคนเมา ก่อนจะวิ่งเข้ามาภายในบ้าน แต่โชคดีเธอปิดประตูทัน ทำให้ผู้ตายวิ่งเข้าไปที่โรงรถ เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงรีบโทรบอกน้องชาย ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 เพราะตอนนั้นมีเพียงเธอ น้องสาว หลานสาว และลุงที่ป่วยอยู่ภายในบ้าน ซึ่งจุดที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่บริเวณบ้านของเธอ และมีบ้านเพียงหลังเดียว ซึ่งตอนนั้นทุกคนตกใจกลัวมากๆ โดยเฉพาะหลานสาว เพราะไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
ด้านชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนดี ช่วยเหลือลูกบ้านมาตลอด ทั้งเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร จึงเชื่อว่าเป็นเหตุสุดวิสัยป้องกันตัว ถ้าเป็นพวกตนก็คงทำแบบเดียวกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพราะไม่เช่นนั้นคนที่ตายอาจเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็เป็นได้ ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่ ต.บัวงาม หมู่ 2-4 มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานเยอะ บางคนก็ดี บางคนก็เสพยา สร้างปัญหาให้กับชุมชน ส่วนคนตายไม่มีใครทราบว่าเป็นใคร เพราะไม่เคยมีใครพบคนตายมาก่อน ซึ่งชาวบ้านได้ขอให้นายกเทศบาลมนตรีตำบลบัวงาม ช่วยติดต่อขอประกันตัวผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกที่เกิดเหตุ ก่อนเชิญตัว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 พร้อมทุกคนในบ้าน ไปสอบปากคำที่ สภ.หลักห้า อย่างละเอียดอีกครั้ง.