ตำรวจกองปราบลุยค้น 8 จุด ทั่วภูเก็ต ตรวจสอบ 17 บริษัทนอมินีรัสเซีย รับทำเอกสารเท็จให้ชาวต่างชาติ คาดเอี่ยวขบวนการฟอกเงิน
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 67 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., สั่งการ พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก และ พ.ต.ต.ธีระพงษ์ คงเขียว สว.กก. บก.ป. นำกำลังพร้อมหมายค้นกระจายกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ต้องสงสัย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของคนต่างชาติ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 8 จุด
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีคนร้ายแอบอ้างเป็น เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หลอกผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับควบคุมโทรศัพท์ ก่อนทำการดูดเงินจากบัญชีของผู้เสียหาย แล้วโอนไปยังบัญชีของชายชาวรัสเซียคนหนึ่ง จำนวน 5 แสนบาท ก่อนจะมีการถอนเงินสดออกจากบัญชีผ่านธนาคารในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ในเวลาต่อเนื่องกัน
จากการตรวจเส้นทางการเงินพบว่า การทำธุรกรรมของชายชาวรัสเซียคนดังกล่าวพบว่า ยังมีพฤติการณ์รับโอนเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีจากกระเป๋าดิจิตอลที่ไม่มีการยืนยันตัวตน (non-custodial wallet) จากนั้นจะมีการขายเหรียญจำนวนมาก โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทยตัวเอง แล้วถอนเงินที่ได้ออกเป็นเงินสดโดยทันที
นอกจากนี้แนวทางสืบสวนยังพบว่าในช่วงระหว่างวันที่ 7 ก.ค. - 19 พ.ย. 66 ชายชาวรัสเซียคนดังกล่าวได้มีการถอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร และตู้ ATM จากบัญชีธนาคาร จำนวน 3 บัญชี รวมเป็นเงินประมาณ 186 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนมากผิดปกติ จึงเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นรูปแบบการฟอกเงินอย่างหนึ่ง จึงเร่งขยายผลต่อเนื่อง ก่อนพบว่าชายชาวรัสเซียคนดังกล่าวได้เคยแสดงหลักฐานใบอนุญาตการทำงานว่าเป็นลูกจ้างของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ภูเก็ต
พ.ต.อ.ภัทราวุธ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบก่อนพบว่าบริษัทดังกล่าวไม่มีการดำเนินกิจการอยู่จริง เชื่อได้ว่าเป็นการจดทะเบียนขึ้นมาเพื่อใช้ในการสร้างเอกสารเท็จ เพื่อใช้สำหรับให้ชาวต่างชาติขอใบอนุญาตทำงาน และขออนุญาตอยู่ในราชการอาณาจักรได้ เมื่อตรวจสอบลงในรายละเอียดพบว่าบริษัทดังกล่าวมีกรรมการ และผู้ถือหุ้นเป็นผู้หญิงไทย จำนวน 2 คน และหญิงชาวรัสเซีย จำนวน 1 คน อีกทั้งยังพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น และกรรมการของบริษัทอื่นอีกรวม 38 บริษัท เชื่อว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดต่างๆ ของชาวต่างชาติ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้น จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการดังกล่าว กระจายกำลังเข้าตรวจค้นจำนวน 8 จุด รวม 17 บริษัท
...
จากการเข้าตรวจค้นดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบหญิงชาวไทย จำนวน 2 คน สอบถามยอมรับว่าได้จัดตั้งบริษัทรับจ้างจดทะเบียนบริษัท, รับดำเนินการขอใบอนุญาตทำงาน, ดำเนินการขอ VISA ให้กับชาวต่างชาติ และยื่นขอใบอนุญาตต่างๆ ให้กับชาวต่างชาติ โดยมีการจัดตั้งบริษัทที่ไม่ได้มีการดำเนินกิจการจริงขึ้นมา เพื่อใช้ในการสร้างเอกสารเท็จเพื่อยื่นขออนุญาตต่างๆ ให้กับชาวต่างชาติจริง
นอกจากนี้จากการตรวจสอบบริเวณชั้นสองของอาคารสำนักงาน ยังพบว่ามีการจัดวางอุปกรณ์คล้ายสำนักงานไว้สำหรับจัดฉาก เพื่อถ่ายภาพการทำงานใช้ในการยื่นขอใบอนุญาตต่างๆ ให้กับชาวต่างชาติ เบื้องต้นจึงได้ตรวจยึดคอมพิวเตอร์สำหรับจัดทำเอกสารเท็จ และจัดเก็บข้อมูลลูกค้าชาวต่างชาติ จำนวน 2 เครื่อง รวมถึงตราประทับบริษัทต่างๆ กว่า 50 บริษัท และเอกสารต่างๆ จำนวนประมาณ 500 แผ่น ไว้ดำเนินการตรวจสอบ หากพบความผิดจะเร่งดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป.