ชัยภูมิ-หนุ่มลูกบ้าน แค้นผู้ใหญ่บ้าน แจ้งตำรวจมาจับยาบ้าอยู่บ่อยครั้ง นานหลายปี หลังพ้นโทษ ฉวยโอกาสผู้ตายทำสวนห่อผลมะม่วง คว้าปืนยิง แล้วใช้มีดพร้าฟันหน้าซ้ำดับสยอง หลังก่อเหตุขี่รถ จยย.ไปมอบตัวกับตำรวจ สภ.บ้านเขว้า

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 มีนาคม 2567 พ.ต.ท.วัชชิระ เพชรฤทธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณไร่มะม่วง บ้านหว่าเฒ่า หมู่ที่ 1 ตำบลภูแลนคา อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวร รพ.บ้านเขว้า และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรม จุดบ้านเขว้า 

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย สภาพถูกยิงเข้าบริเวณทั่วร่างกายและมีร่องรอยถูกฟันเข้าบริเวณใบหน้า แขน และลำตัว นอนจมกองเลือดในสภาพสวมเสื้อกล้ามสีแดง กางเกงขาสั้นสีเขียว ทราบต่อมาคือ นายอนุชา ทองภูบาน อายุ 54 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 บ้านหนองกระทุ่ม ตำบลชีบน อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ใกล้กันยังพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน บจ 2217 ชัยภูมิ จอดอยู่ และข้างรถกระบะยังพบปืนยาวไทยประดิษฐ์ คาดเป็นของผู้ก่อเหตุวางอยู่ ส่วนผู้ก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ทราบชื่อต่อมา คือ นายไก่ โทนวงศา อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นลูกบ้านของผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุได้นำอาวุธปืน และมีดพร้าถางหญ้า ที่ใช้ก่อเหตุ โยนทิ้งไว้ยังป่าหญ้าใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะเดินทางไปมอบตัวกับตำรวจ ที่ สภ.บ้านเขว้า

เบื้องต้นนายไก่โทน ผู้ก่อเหตุ ได้ให้การอ้างว่า สาเหตุที่ต้องฆ่านายอนุชา ผู้ใหญ่บ้านจนเสียชีวิตครั้งนี้ เนื่องจากมีความแค้นสะสมกับนายอนุชา ผู้ใหญ่บ้านหนองกระทุ่ม ที่มักจะแจ้งตำรวจให้มาจับตนเอง ในเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดมานานหลายปี เมื่อพ้นโทษออกมา จึงหาจังหวะและโอกาส ใช้ปืนแก๊ปยิงนายอนุชา ก่อนใช้มีดฟันที่ลำตัวนายอนุชา จนล้มคว้านอนเสียชีวิตยังที่เกิดเหตุ

...

จากการสอบถาม นางรจนา ทองภูบาน (ภรรยาของผู้เสียชีวิต) เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สามีของตนได้ออกจากบ้านมาเพื่อที่จะมาทำสวนและมาทำการห่อผลมะม่วง ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ตนได้รับรับสายจากเพื่อนบ้านว่า สามีของตนได้ออกมาที่สวนหรือไม่ เพราะมีเสียงคล้ายกับคนทะเลาะกันที่สวนมะม่วงของตน ตนจึงรีบตามออกมาดู จนกระทั่งพบว่าสามีของตนนั้นถูกทำร้ายจนกระทั่งเสียชีวิตแล้ว 

ซึ่งส่วนตัวสามีของตนกับผู้ก่อเหตุนั้น ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกันมาก่อน แต่คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะคิดว่าสามีของตนนั้น ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหายาเสพติดและข้อหาอาวุธปืนกับตัวผู้ก่อเหตุมาโดยตลอด แต่บ้านของตนได้ติดกล้องวงจรปิดไว้ ตัวผู้ก่อเหตุจึงไม่สามารถลงมือที่บ้านได้ จึงคาดว่าจะตามผู้เสียชีวิตมาที่สวนและลงมือก่อเหตุในครั้งนี้

ส่วนนายอำพร ยนต์ชัย อายุ 58 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันที่อยู่ตรงข้ามที่เกิดเหตุเล่าว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนเห็นผู้ก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาที่ปั๊มของตน ก่อนที่จะขับรถมาบอกตนว่า ได้ลงมือยิงและฟันผู้เสียชีวิตแล้ว ฝากแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบด้วย ส่วนตนเองนั้นจะเดินทางไปมอบตัวที่สถานีตำรวจ ก่อนขับรถจักรยานยนต์หนีไป จนกระทั่งทราบภายหลังว่า ผู้ก่อเหตุได้เข้าไปมอบตัวที่สถานีตำรวจแล้ว ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวไว้ที่ สภ.บ้านเขว้า 

ด้าน พ.ต.ท.วัชชิระ เพชรฤทธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งตรวจสอบวัตถุพยานและเก็บเขม่าดินปืนอีกทั้ง ยังได้เก็บปืนแบบไทยประดิษฐ์ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบในที่เกิดเหตุก่อนจะมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่ไปทำการชันสูตรและมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ก่อนเดินทางไปทำการสอบสวนผู้ก่อเหตุ แล้วจะควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมเตรียมตั้งข้อหาใช้อาวุธปืนแก๊ปและมีดพร้าฆ่าคนอื่นจนทำให้ถึงกับเสียชีวิต ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป