"ธนกฤต" เดินทางเข้าให้ข้อมูล ปปป. ขยายผลขบวนการ "ศรีสุวรรณ" รีดทรัพย์จากการตรวจสอบโครงการเช่าซื้อกำไล EM ปี 2566 ชี้ เจ้าตัวยันไม่รู้จักบุคคลตัวย่อ จ.จาน เชื่อเป็นแผนประทุษกรรม คล้ายคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมข้าว
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 ก.พ. 67 นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่เคยถูกขบวนการของ นายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวก เรียกรับทรัพย์สินในโครงการเช่าซื้อกำไล EM ของกรมราชทัณฑ์ในปี 2563 ซึ่ง นายศรีสุวรรณ เคยนำมาร้องเรียนกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เมื่อปี 2566 มูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท เพื่อให้ตั้งกรรมการสอบการจัดซื้อจัดหากำไล EM ดังกล่าว
โดย นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า การเดินทางมาวันนี้เนื่องจากได้รับการประสานจาก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ให้ตนและทีมงานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของขบวนการเรียกทรัพย์ มาให้ข้อมูลกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ว่า มีข้อมูลอย่างไรบ้าง เพื่อนำไปประกอบในการทำสำนวนคดีขบวนการเรียกรับทรัพย์ ต่อเนื่องจากเหตุการณ์ของอธิบดีกรมการข้าว
ซึ่งวันนี้เป็นการเชิญมาไม่ได้มีการออกหมายเรียก หรือขอให้มาทำหน้าที่อย่างไร ซึ่งพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับประเด็นดังกล่าวอย่างเต็มที่ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนคือในช่วงปี 2565 และในช่วงปี 2567 ซึ่งมีทีมกฎหมายของตนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งสิ้น
"ยืนยันว่าไม่รู้จักกับบุคคลตัวย่อ จ.จาน เป็นการส่วนตัว และไม่ทราบว่า จ.จาน ได้เบอร์โทรศัพท์ของตนมาจากไหน ซึ่งได้ติดต่อมาพูดคุยทางโทรศัพท์ในประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเขาก่อน หลังจากนั้นจึงมีการติดต่อมาอีกครั้งว่า จะขอเข้าพบและมาที่ห้องทำงาน การพูดคุยในวันนั้นเป็นการคุยที่เปิดเผย ใครก็ตามที่อยู่ในห้องทำงานหรือในเหตุการณ์ก็จะเห็นว่า จ.จาน มาที่ห้องทำงานที่กระทรวงยุติธรรม สิ่งที่พูดคุยกันคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงน่าจะได้ยินประโยคสำคัญที่พูดคุยทั้งหมด" นายกองตรี ธนกฤต กล่าว
...
นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า วันนี้เชื่อว่าเป็นแผนประทุษกรรมที่คล้ายกัน มีการพูดคุยในทำนองนั้นแต่ไม่ได้พูดถึงตัวเลขหรือจำนวนเงิน แต่ทั้งนี้เราได้ศึกษาข้อกฎหมายแล้ว ในกรณีดังกล่าวการพูดลักษณะเช่นนั้นมีความหมายหรือมีเจตนาอย่างไร โดยตนทราบภายหลังจากข่าวว่าบุคคลดังกล่าวใช้คำสำคัญคล้ายกรณีอธิบดีกรมการข้าว จึงให้ทีมงานกลับมาทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ห้องทำงานตนครั้งนั้นว่า คล้ายกันหรือไม่ และทราบภายหลังด้วยว่า วันที่ จ.จาน มาที่ทำงาน ไม่ได้มาเพียงลำพัง แต่มีอีกคนที่รอในรถ
"เราต้องพูดให้สังคมเข้าใจด้วยว่า เราเป็นหนึ่งในผู้ถูกกระทำเช่นกัน ทั้งนี้ตอนนี้ตนมีธงในเรื่องบางอย่างแล้ว แต่ยังขอยืนยันว่าการร้องเรียนเป็นเรื่องที่ดี แต่อยากให้มีการทำเป็นอาชีพไปเลยให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้คนอื่นเดือดร้อนได้" นายกองตรี ธนกฤต กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณผู้ช่วยรัฐมนตรีและทีมงาน ที่เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีอยู่ขณะนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เบื้องต้นพบว่าเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกัน คือ นาย จ. นาย ศ. แต่ยังไม่ระบุว่ามี อ.อ่าง ด้วยหรือไม่ ซึ่งมีแผนประทุษกรรมใกล้เคียงกัน แต่ต้องตรวจพยานหลักฐานก่อนว่า จะสามารถดำเนินการไปได้ถึงขั้นใด ทั้งนี้พยานหลักฐานทั้งหมด คณะพนักงานสอบสวนได้ทำการบ้าน ระหว่างแนวทางการดำเนินการไว้อย่างเป็นขั้นตอนเรียยร้อยแล้ว จากนี้พนักงานสอบสวนจะตรวจสอบพฤติกรรมต่างๆ ว่า สอดคล้องกับข้อมูลที่ นายกองตรี ธนกฤต นำมายื่นให้วันนี้หรือไม่ และจะมีความชัดเจนในประเด็นต่างๆ มากยิ่งขึ้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ว่า เข้าข่ายความผิดทางอาญา หรือเข้าข่ายเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดหรือไม่นั้นขอให้เป็นเรื่องในสำนวนการสอบสวน เพราะจากข้อมูลที่มีและจากการหารือกับ นายกองตรี ธนกฤต เบื้องต้นพบว่าข้อกฎหมายยังค่อนข้างหมิ่นเหม่ แต่เชื่อว่าสำนวนน่าจะดำเนินการได้ตามข้อมูลที่มี แม้จะยังไม่มีการรับจ่ายเงิน แต่กรณีนี้ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว เพราะมีการเรียกรับทรัพย์สินชัดเจน