“ก้าวแรก” ในถิ่นอีสานตอนเหนือของ “บิ๊กโอ๊ด” พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 หลังกดปุ่มขับเคลื่อนสั่งตำรวจภาค 4 ในสังกัด 12 จังหวัด รวม 252 สถานี ทำงานเชิงรุก เปิดปฏิบัติการไล่ล่า (เด็ดปีก) นักค้าอีสานเหนือ 252 “No Place for Drug” (NPD.P.4) ปูพรมจับกุมนักค้ารายย่อย ไม่มีที่ยืนในพื้นที่

ปัญหาอาชญากรรมส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นอยู่ในทุกวันนี้ ล้วนมีสารตั้งต้นมาจากยาเสพติด ยิ่งชุมชนที่อยู่ในพื้นที่จุดล่อแหลมต่อการแพร่ระบาดยาเสพติด ยิ่งเป็นแหล่งบ่มเพาะให้นักค้ารายย่อยมารวมตัวขายยานรกให้กับชาวบ้าน วัยรุ่น และเยาวชนในชุมชนทำรายได้ให้นักค้า แต่สร้างภาระให้สังคมเพิ่มมากยิ่งขึ้น

พื้นที่ 12 จังหวัดที่ขึ้นตรงกับตำรวจภูธรภาค 4 บางจังหวัดติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดใช้ในการขนยาออกนอกประเทศและรับยาเข้ามาในประเทศไทย ดังนั้นการแพร่กระจายแหล่งค้าขายยาเสพติดรายย่อย จึงมีต่อเนื่องกับชุมชนและหมู่บ้านต่างๆของจังหวัดในพื้นที่ภาค 4

...

ถือเป็นเรื่องท้าทายให้ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ต้องคิดหาวิธีปกป้องเยาวชน วัยรุ่น และคนบริสุทธิ์ ที่อยู่ในชุมชนหรือหมู่บ้านให้ห่างไกลยาเสพติดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นการคัดแยกนักค้ายาเสพติดรายย่อยที่แฝงตัวกระจายขายยาอยู่ในพื้นที่ออกจากแหล่งชุมชนดังกล่าวจึงถือว่าเป็นวิธีการที่ดีวิธีหนึ่ง

ปฏิบัติการไล่ล่า (เด็ดปีก) นักค้าอีสานเหนือ “ไม่มีที่ยืนให้นักค้ายาเสพติด” ถือเป็นก้าวแรกของตำรวจภูธรภาค 4 ใช้เวลา 1 เดือน ให้ตำรวจ 252 โรงพักในสังกัด ไปสำรวจวิเคราะห์สภาพปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่ ร่วมกับทุกภาคส่วน ได้แก่ ฝ่ายปกครอง กองทัพภาคที่ 2 สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ป.ป.ส. คัดแยกผู้เสพ ผู้ใช้ โดยมุ่งเน้นไปยังผู้ค้ารายย่อยที่ขายยาในชุมชน เพื่อตัดวงจรการค้ายา แต่ถ้าตำรวจวิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ค้ามีโครงข่ายใหญ่เชื่อมโยงกันหลายพื้นที่ จนเกินขีดความสามารถจะประสานให้ บก.สส. บช.ภ.4 หรือสืบสวนของจังหวัดสนับสนุนการปฏิบัติการก็ได้

กับการเปิดปฏิบัติการของตำรวจภาค 4 ในรอบ 1 เดือนนี้ สามารถจับนักค้าได้ถึง 309 ราย จาก 400 หมายจับ คิดเป็น 81% จับหมายจับค้างเก่าได้ 43 ราย ของกลางยาบ้า 1,418,412 เม็ด, ยาไอซ์ 0.62 กิโลกรัมยึดและอายัดทรัพย์สิน 1,318 รายการ คิดเป็นมูลค่ารวม 171,605,208 บาท มีทั้งเงินสด,สิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดิน,รถยนต์ 166 คัน,รถจักรยานยนต์ 363 คัน และทรัพย์สินอื่นๆ เช่น ทอง ปืน วัว ฯลฯ

โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภานุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. , พล.ต.พรชัย มาหลิน รองแม่ทัพภาคที่ 2, พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ร่วมกันแถลงผลงานครั้งนี้ พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวว่า การเปิดปฏิบัติ การครั้งนี้ เป็นเพียงก้าวแรกของการกวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่อย่างเด็ดขาด ต่อไปตำรวจภาค 4 จะไม่ยอมให้ผู้ค้ายานรกมีที่ยืนอยู่ในพื้นที่ จะบังคับใช้กฎหมายยึดและอายัดทรัพย์สินอย่างเด็ดขาด รวมทั้งดำเนินการทุกมิติ เพื่อทำลายขบวนการค้ายาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ภาค 4 ให้ได้

...

ทั้งนี้เพื่อเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มุ่งเน้นให้ลดปัญหายาเสพติดให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ภายในระยะเวลา 1 ปี เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน

ก้าวแรกผ่านไปด้วยดี คงต้องรอดูทิศทางการทำงานก้าวต่อไปของ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ 4 ว่า จะงัดวิธีไหนมาจัดการกับเหล่านักค้ายาในพื้นที่อีกบ้าง.

ทีมข่าวอาชญากรรม

...

คลิกอ่านคอลัมน์ “แกะรอยรอบสัปดาห์” เพิ่มเติม