ตามลากคอมือปืนปลอมตัวเป็นคนเร่ร่อนดักยิงพ่อค้านำเข้าเครื่องเทศบาดเจ็บสาหัสย่านซอยแบริ่ง ตำรวจแกะรอยจากเบอร์มือถือของคนร้ายที่เข้าไปซื้อน้ำดื่มในร้านเซเว่นฯแล้วกดสะสมแต้มออลล์เมมเบอร์ ตามไปรวบตัวได้ที่ จ.อุดรธานี สารภาพหลานชายคนเจ็บว่าจ้างยิงน้าชายตัวเอง ปมแค้นจากปัญหาความขัดแย้งธุรกิจนำเข้าเครื่องเทศจากอินเดีย เร่งรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับตามล่าตัวหลานโหด เช็กประวัติมือปืนเดนคุกเคยถูกจับหลายคดีทั้งชิงทรัพย์ ค้ายา พ้นโทษออกมาไม่นานรับงานยิงคนอีกต้องกลับไปอยู่คุกต่อ

มือปืนยิงพ่อค้านำเข้าเครื่องเทศจนมุมเพราะกดเบอร์มือถือสะสมแต้มออลล์เมมเบอร์เปิดเผยที่ สภ.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ก.พ. พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายปรีชา ดาวสว่าง อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหาพยายามฆ่า พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จับกุมได้ที่ จ.อุดรธานี พร้อมของกลางปืนแบลงก์กัน 2 กระบอก

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.พ. เวลาประมาณ 20.00 น. ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ รับแจ้งเหตุคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณปากซอยแบริ่ง 33/10 ต.สำโรงเหนือ คนเจ็บชื่อนายราม ติวารี อายุ 50 ปี คนไทยเชื้อสายอินเดีย พ่อค้านำเข้าเครื่องเทศจากอินเดีย มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเฉี่ยวบริเวณแขนขวา กระสุนทะลุเอวด้านขวา เจ้าหน้าที่ช่วยกันปฐมพยาบาลก่อนรีบนำส่ง รพ.ศิครินทร์ ล่าสุดอาการปลอดภัย

หลังเกิดเหตุตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานหาตัวคนร้าย กระทั่งได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิดพบว่า หลังก่อเหตุคนร้ายเดินเข้าไปซื้อน้ำดื่มในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ปากซอยแบริ่ง 33 ระหว่างจ่ายเงินได้กดเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองเพื่อสะสมแต้มออลล์เมมเบอร์ ตำรวจตรวจสอบจากเบอร์มือถือจนทราบตัวคนร้ายคือนายปรีชา จากนั้นรวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนไปขออนุมัติหมายจับจากศาล ต่อมาทราบข้อมูลว่านายปรีชาหลบหนีกบดานอยู่ จ.อุดรธานี ติดตามไปจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

...

สอบสวนนายปรีชาสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากนายจอนนี่ อายุ 30 ปี หลานชายของนายราม เป็นพ่อค้าเครื่องเทศอยู่ จ.อุดรธานี ให้ไปยิงนายรามผู้เป็นน้า ราคาค่าจ้าง 50,000 บาท จ่ายเงินค่างานมาแล้ว 18,000 บาท วันเกิดเหตุนั่งรถโดยสารจาก จ.อุดรธานี มาดักรอเป้าหมาย แกล้งทำตัวเป็นคนเร่ร่อนสติไม่ดีคุ้ยเขี่ยถังขยะบริเวณหน้าปากซอยทางเข้าบ้านของนายราม กระทั่งเห็นนายรามขี่รถ จยย.ผ่านมาถึงก็ชักปืน .45 ยิงใส่ 1 นัด จนล้มลงได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเดินไปซื้อน้ำดื่มที่ร้านเซเว่นฯปากซอยแบริ่ง 33 และเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ก่อนจะโบกรถ จยย.รับจ้างให้ไปส่งหมอชิต ขึ้นรถทัวร์เดินทางหลบหนีกลับไปกบดานอยู่ จ.อุดรธานี กระทั่งถูกตำรวจตามมาจับกุม

พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายจอนนี่กับนายราม น้าชาย เคยพักอาศัยอยู่ด้วยกันย่านซอยแบริ่ง แล้วทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะวิวาทขัดแย้งกันเรื่องธุรกิจนำเข้าเครื่องเทศจากประเทศอินเดีย เข้ามาจำหน่ายในไทย นายจอนนี่แยกตัวย้ายไปทำธุรกิจอยู่ จ.อุดรธานี แต่ด้วยความแค้นที่สะสมอยู่เลยหามือปืนไปก่อเหตุยิงน้าชายตัวเอง ขณะนี้นายจอนนี่อยู่ระหว่างหลบหนี ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ ติดตามล่าตัวมาดำเนินคดี ส่วนประวัตินายปรีชา มือปืนที่ก่อเหตุเคยถูกจับคดีชิงทรัพย์ท้องที่ สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อปี 2558 ศาลตัดสินจำคุก 7 ปี 6 เดือน และคดีจำหน่ายยาเสพติดเมื่อปี 2563 จำคุก 1 ปี 10 เดือน พ้นโทษเมื่อวันที่ 9 ม.ค.65 กระทั่งมารับงานยิงคนจนถูกจับกุมอีก

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่