จับ "โต้ 9 นิ้ว" หัวโจกแก๊งโจ๋แทง นศ.ปทุมวันดับ พร้อมพวกอีก 2 สอบสวนพบมีเจตนายั่วยุก่อเหตุชัดเจน ส่วนผู้ต้องหาอีก 7 ราย เตรียมเข้ามอบตัวพรุ่งนี้ ตำรวจลั่นไม่ยอมเด็ดขาด-จะดำเนินการให้ถึงที่สุด เพื่อกวาดล้างกลุ่มแก๊งที่มีแผนก่อเหตุประทุษกรรม สั่งวางกำลังตรวจเข้ม 3 วัน ก่อน 1 ก.พ. สถาปนา "อุเทนฯ"

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 ม.ค. 67 ที่ บก.สส.บชน. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6, พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก.สน.ปทุมวัน, และ พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ รอง ผกก.สอบสวน สน.ปทุมวัน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบนครบาล บก.น.6 และ สน.ปทุมวัน ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว 1. นายณัฐพร พวงแก้ว หรือ "โต้ 9 นิ้ว" อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.85/2567 (หัวโจกของแก๊งผู้ก่อเหตุ) 2. นายธีรทัศน์ นิจนันท์ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.92/2567 3. นายการัณย์ นันทะแสน อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.91/2567 ข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร" พร้อมด้วยของกลาง 1. กล่องของมีดพับ BROWNIG Stainless steel Knife (กล่องลาย) จำนวน 1 กล่อง 2. กล่องของมีดพับ BROWNIG Stainless steel Knife B149 FA18 มีดพับกลางแจ้ง (กล่องสีดำ) จำนวน 1 กล่อง 3. รองเท้าผ้าใบสีแดง พื้นขาว ยี่ห้อ VANs จำนวน 1 คู่ โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่บริเวณโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แขวงและเขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ตรวจค้นและจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ซอยรามคำแหง 68 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ตรวจค้นและจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ซอยรามคำแหง 89 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.

...

จากการสอบสวนทั้ง 3 คน ให้การให้รับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุได้รวมตัวกันก่อนในวิทยาลัยอุเทนถวาย ก่อนจะออกไปด้วยกันทั้งกลุ่ม ส่วนที่เดินไปถ่ายรูปหน้าป้ายวิทยาลัยปทุมวันนั้น เป็นแค่การเดินผ่านเพื่อไปกินข้าว ถ่ายเล่นๆ ไม่ได้ไปยั่วยุแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า "มันแก้ไม่ได้แล้วใช่หรือไม่" กับมหากาพย์ศึกสงครามระหว่าง 2 สถาบัน หลังเกิดเหตุที่ "ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด" ถูกกลุ่มช่างกลอริยิงจนเสียชีวิต และนำมาสู่การเปิดโปงเบื้องหลังให้สังคมไทยได้รับรู้ แต่ตลาดยังไม่ทันวาย การแก้แค้นก็เกิดขึ้นจากฝั่งคู่อริ กลางดึกวันที่ 26 ม.ค. กลุ่มชายแต่งกายช่างกล 9 คน รวมพลยกพวกบุกไปถึงหน้าสถาบันช่างกลปทุมวัน แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. ก่อนจะลงมือควักอาวุธมีดแทง นายวราวุธ หรือเร ขันคำนอก อายุ 25 ปี นักศึกษาช่างกลปทุมวันจนเสียชีวิต โดยจากวงจรปิดพบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นคู่อริช่างกลได้อยู่บริเวณป้ายหน้าสถาบันฯ ใกล้บริเวณป้ายหยุดรถประจำทาง ถนนพระราม 1 ทั้งหมดได้แสดงอาการยั่วยุ โดยมีชายทราบชื่อต่อมาว่า นายโต้ ได้ปีนขึ้นไปบนรั้วสถาบันฯ เป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุการณ์จนมีผู้เสียชีวิต จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มคนร้ายมีการซ่องสุ่มกันและออกมาก่อเหตุ โดยมีการแอบซุกซ่อนอาวุธมีดใต้รองเท้า เพื่อยากต่อการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ ล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.เดินเกมเงียบ เปิดปฏิบัติการปิดเมืองไล่ล่ามือฆ่า นำกำลังสืบนครบาล สืบ 6 และ สน.ปทุมวัน นำหมายค้นบุก "ทลายรังปลวก" 7 แห่ง หาตัวผู้ร่วมก่อเหตุมารับโทษตามกฎหมายและไม่มีการละเว้น

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีดังกล่าวได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร" พร้อมตรวจค้นทั้งหมด 7 จุด พบของกลางเป็นมีด กล่องใส่มีด และรองเท้าเปื้อนเลือดที่สวมใส่ในวันที่เกิดเหตุ และพบผู้ต้องหา 3 ราย จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดยังพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีเจตนายั่วยุชัดเจน และยังมีการพกพาอาวุธเตรียมไว้ด้วย ขณะที่บาดแผล 7-9 แห่ง ของผู้เสียชีวิตล้วนเป็นจุดสำคัญของร่างกาย จึงถือว่ามีเจตนาฆ่าผู้อื่นชัดเจน ส่วนมีดของผู้เสียชีวิตนั้นยังไม่พบ โดยมูลเหตุเกิดจากกลุ่มผู้ก่อเหตุตั้งใจปีนรั้วเข้าไปถ่ายรูปกับดอกบัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอีกสถาบันเพื่อยั่วยุ ทั้งยังพบว่าได้ซุกซ่อนอาวุธมีดไว้ในรองเท้า เพื่อสร้างการยอมรับในกลุ่มก่อนถึงวันสถาปนาสถาบันฯ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 ก.พ. นี้ ขณะที่กลุ่มผู้ตายที่อยู่ในสถาบันเห็นเข้าและรู้สึกว่าถูกหยาม จึงออกมาตรวจสอบก่อนเกิดเหตุในเวลาต่อมา เชื่อว่ายังมีคนที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังอีก ซึ่งจะขยายผลติดตามต่อไป

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุที่ถูกออกหมายจับทั้ง 9 คน มี 2 คน ที่ยังมีสภาพเป็นนักศึกษา ส่วนอีก 7 รายพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาไปแล้ว เคยเรียนจริงแค่ 1 เทอม แต่จะพยายามรวมตัวกันเพื่อชักชวนรุ่นน้องที่ยังเรียนอยู่ให้เข้าร่วมกลุ่ม เปิดเซฟเฮาส์ไว้หลายๆที่รวมตัว และปลูกฝังค่านิยมผิดๆ ทั้งนี้ได้รับรายงานจากผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน ว่า ได้รับการติดต่อจากทนายความของกลุ่มผู้ก่อเหตุว่า จะนำตัวผู้ต้องหาที่เหลือทั้งหมดเข้ามอบตัว ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) เวลา 13.00 น.

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่อว่า ส่วนในวันสถาปนาสถาบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 ก.พ.นี้ พบว่ามีนักศึกษาของทั้งสองสถาบัน โพสต์โซเชียลมีเดียท้าทายกันนั้น ยืนยันว่าตำรวจจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด โดยได้สั่งการให้ทางฝ่ายสืบสวน ปราบปราม ฝ่ายจราจร รวมถึงตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวให้ดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาด ทั้งตั้งด่านก่อนเข้างาน และตรวจสอบอย่างเข้มงวดตลอด 3 วัน จนถึงวันสถาปนา และทางบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพื่อกวาดล้างกลุ่มแก๊งดังกล่าวที่มีแผนประทุษกรรมในลักษณะเดียวกัน

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวย้ำว่า อยากให้สถานศึกษาเป็นสถานที่สำหรับปลูกฝังความรู้ให้กับเยาวชน ฝากไปถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งสองกลุ่ม หากยังมีการแก้แค้นกันไปมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการกวาดล้าง แล้วจะไม่มีโอกาสเข้าไปศึกษาเล่าเรียนได้อีก นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่ามีเด็กนักเรียนมัธยมใส่ขาสั้น ที่เริ่มมีพฤติกรรมเลียนแบบ ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้สั่งการไปยังสถานีตำรวจนครบาลทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพมานคร ให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด และป้องกันเหตุนักเรียนตีกัน

...