ตำรวจ สน.คลองตัน ร่วมกับสหวิชาชีพ สอบปากคำเด็กนักเรียน ม.2 โรงเรียนมัธยมฯ ใช้มีดแทงคอเพื่อนขณะเข้าแถวตอนเช้าจนเสียชีวิต เผยเด็กพูดคุยตอบคำถามได้ปกติ สาเหตุจากการ "ท้าทายกันไปมา" ส่วนเรื่องเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ ผู้ปกครองไม่ได้พูดถึง เตรียมส่งตรวจสภาพจิตที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา
เวลา 14.00 น. วันที่ 29 ม.ค. 67 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สน.คลองตัน เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเด็กนักเรียนชั้น ม.2 ที่ก่อเหตุแทงคอเพื่อนร่วมโรงเรียนจนเสียชีวิต โดยให้เด็กเปลี่ยนชุดจากชุดนักเรียนเป็นชุดลำลอง ก่อนจะทำการสอบปากคำพร้อมพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ และผู้ปกครอง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ
พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเด็กเบื้องต้นให้การได้ปกติ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีการท้าทายกันไปมา แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าทะเลาะกันเรื่องใด โดยขั้นตอนจากนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพต่อหน้าผู้ปกครอง จากนั้นจะส่งเด็กไปตรวจสภาพจิตที่สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อคลายข้อสงสัยในประเด็นว่าเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ แต่เบื้องต้นผู้ปกครองเด็กไม่ได้ให้การว่าเป็นเด็กพิเศษแต่อย่างใด ส่วนประเด็นว่าถูกบูลลี่ หรือมีพฤติการณ์เก็บกดหรือไม่ ต้องรอผู้เชี่ยวชาญมาประเมินสภาพจิต จากนั้นจะควบคุมตัวส่งฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.)
น.ส.นิว (นามสมติ) อายุ 45 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บอกว่า ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ ซึ่งไม่รู้ว่าทางโรงเรียนจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร บอกเพียงว่าให้มาที่สถานีตำรวจ ส่วนตัวรู้สึกรับไม่ได้เรื่องความปลอดภัยในโรงเรียน ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยเล่าเรื่องเพื่อนคนนี้ให้ฟัง รวมถึงไม่เคยเล่าว่าถูกแกล้งถูกแซว ปกติมีอะไรจะมาเล่าให้ฟัง แม้แต่เพื่อนทะเลาะกันก็ยังมาบอก ตามปกติของเด็ก แต่กรณีนี้ไม่เคยเลย ซึ่งปกติแล้วตัวเองก็จะไปส่งลูกที่โรงเรียนทุกวัน และเมื่อช่วงเช้าลูกก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง มาทราบเรื่องอีกทีตอนครูประจำชั้นโทรไปแจ้งว่าน้องอาการไม่ดีจากภาวะขาดเลือดนำตัวส่งโรงพยาบาล
...
ด้าน พ.ต.ท.หญิง ฉันฉาย รัตนพานิช รองโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้าเหตุนักเรียนมัธยมใช้อาวุธมีดแทงคอเพื่อนเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ สน.คลองตัน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจนครบาลคลองตันได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำที่ สน. พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่ทีมสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำ และนำไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นไว้ก่อน และหลังจากตรวจสุขภาพแล้วเสร็จ ภายใน 24 ชั่วโมง จะส่งไปตัวไปศาลเยาวชนและครอบครัวกลางตามขั้นตอน โดยเรื่องนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ดำเนินการเร่งรัดติดตามคดีนี้อย่างรอบคอบ ครอบคลุมทุกมิติ เพราะผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตยังเป็นเด็กและเยาวชน และขอความร่วมมือสื่อมวลชนและสื่อโซเชียล ระมัดระวังการนำเสนอ หรือการแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลด้วย ไม่ว่าจะเป็นชื่อจริง และรูปภาพ
ส่วนสาเหตุยังต้องรอผลการสอบปากคำอย่างละเอียด และการดำเนินการตามขั้นตอน เพราะผู้ก่อเหตุเป็นเด็ก ส่วนผู้ก่อเหตุจะเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการนำตัวไปตรวจสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิต โดยต้องรอผลการวินิจฉัยของแพทย์
รองโฆษก ตร. กล่าวว่า หากพบว่าเป็นเด็กพิเศษ ตามขั้นตอนจะต่างจากผู้ต้องหาที่เป็นเด็กธรรมดา 2 เรื่อง คือ ขั้นตอนแรกหากไม่สามารถต่อสู้คดีได้ก็จะงดสืบสวนในคดีนั้น แต่หากสามารถสู้คดีได้ จะมอบให้ผู้อนุบาล หรือข้าหลวงประจำจังหวัดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องนำตัวไปดูแลรักษาตามเหตุสมควร ทั้งนี้ส่วนการตรวจสอบคงใช้เวลาไม่นานเพราะมีกระบวนการอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคดีสำคัญและประชาชนให้ความสนใจและทาง ผบ.ตร.ก็กำชับไปทาง ผบช.น.แล้วให้ดำเนินการอย่างรอบคอบทุกมิติ
ส่วนกรณีที่ ผบ.ตร. เคยระบุว่า จะศึกษารวบรวมสถิติการก่อเหตุของเด็กและเยาวชน เพื่อให้กระทรวงยุติธรรมนำไปพิจารณาในการปรับแก้ข้อกฎหมายการดำเนินคดีกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีนั้น คาดว่าในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการรวบรวมข้อมูลเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ เนื่องจากต้องมีการแยกข้อมูลประเภทของคดีอย่างละเอียด เพื่อให้ข้อมูลเกิดความชัดเจนก่อนจะส่งให้กระทรวงยุติธรรมต่อไป.