ปอศ.หวั่นผู้บริโภคได้รับอันตรายจากผงปรุงรสปลอม นำกำลังบุกทลายแหล่ง "รสดีปลอม" รวบ 5 ผู้ต้องหา พร้อมยึดของกลางอื้อ เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 25 ม.ค.67 พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการให้ พ.ต.อ.วีระพงษ์ หอมหวล ผกก.1 บก.ปอศ., พ.ต.ต.ชัยพิพัฒน์ พันธุชาติ สว.กก.1 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุม นายเกรียงไกร ขันข้าว อายุ 31 ปี, น.ส.ณัฐริกา เกิดสีชัง อายุ 25 ปี, น.ส.พัชรี วงศ์กระต่าย อายุ 41 ปี, นายพิภพ ขวัญจิตร อายุ 46 ปี และ นางภรณ์ทิพย์ อุ่นกาย อายุ 32 ปี ข้อหา "ปลอมและมีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้ว ในราชอาณาจักร" จับได้บริเวณ ถ.กัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ, โกดังเก็บสินค้าไม่มีเลขที่ ต.บางคูวัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และบ้านหลังหนึ่งไม่มีเลขที่ ต.บ้านม้า อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นผงปรุงรสปลอมเครื่องหมายการค้ารสดี 33,405 ซอง, ซองเปล่าสำหรับบรรจุผงปรุงรสปลอมเครื่องหมายการค้ารสดี 30,840 ซอง, กล่องบรรจุสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้ารสดี 3,367 กล่อง, เครื่องชั่งน้ำหนัก, เครื่องรีดซอง, อุปกรณ์การผลิต 23 รายการ, สารปรุงแต่งสำหรับการผลิตขนาด 5 กิโลกรัม 1,768 ซอง รวมยึดของกลางทั้งสิ้น 69,403 รายการ มูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท

สืบเนื่องจาก มีตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ ประเทศไทย จำกัด เข้าแจ้งความกับ กก.1 บก.ปอศ. ว่า มีผงปรุงรสยี่ห้อรสดีปลอมกระจายสู่ท้องตลาดจำนวนมาก จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่า สถานที่ตรวจค้นและจับกุมดังกล่าวเป็นสถานที่ผลิต และถูกใช้ในการกักเก็บสินค้าเพื่อจำหน่ายให้กับร้านค้าส่งและประชาชนโดยทั่วไป ถ้าสินค้าเหล่านี้กระจายออกไปสู่ผู้บริโภค อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค รวมทั้งภายในสถานที่ผลิตเหล่านี้ค่อนข้างสกปรก และไม่ถูกสุขลักษณะ เจ้าหน้าที่จึงได้นำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาเข้าตรวจค้นทันที

...

ผลการตรวจค้นทั้ง 3 จุด พบผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย แสดงตัวเป็นเจ้าของ ตรวจค้นพบของกลางตามรายการดังกล่าว จึงคุมตัวทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากแนวทางการสืบสวน เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การของ 5 ผู้ต้องหา ที่ระบุว่าเป็นเจ้าของสินค้าทั้งหมด เนื่องจากแนวทางการสืบสวน พบว่าเบื้องหลังมีนายทุนชาวจีนเป็นเจ้าของตัวจริง แต่หากมีการเข้าจับกุมมักจะให้พนักงาน หรือคนเฝ้าสถานที่ เป็นคนรับสารภาพก่อน โดยหลังจากนี้จะสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมนายทุนเจ้าของตัวจริงต่อไป