"บิ๊กโจ๊ก" เตรียมพบ "อัยการ-ตำรวจเยอรมัน" พรุ่งนี้ เคลียร์ปมชายชาวเยอรมันอ้างจ่ายเงิน 1 ล้านบาท ล้มคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กในเมืองไทย ก่อนหลบหนีกลับบ้านเกิดสำเร็จ ชี้ ต้องทำความจริงให้ปรากฏ "จ่ายให้ใคร ค่าอะไรกันแน่ หรือเป็นเงินสินบนที่จ่ายให้เจ้าหน้าที่รัฐ"
ความคืบหน้ากรณี นายเจน คริช ชาวเยอรมัน เดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี มีการซื้อบริการทางเพศเด็กหญิงไทย อายุ 14 ปี และถูกจับกุมดำเนินคดี ต่อมาได้ใช้เงิน 1 ล้านบาท จ่ายสินบนตำรวจ หลบหนีกลับประเทศ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของกระบวนการยุติธรรมไทยต่อการดำเนินคดีค้ามนุษย์ และคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก เพื่อให้เกิดความกระจ่างเรื่องการจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(มค) ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ รอง ผบช.ส. พ.ต.อ.ทรงเอก พัชรวิชญ์ รอง ผบก.ตท. พ.ต.อ.พงศ์ธร พงศ์รัชตนันทน์ รอง ผบก.ตม.2 และ พ.ต.อ.ศิลา ตันตระกูล ผกก.ฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 3 ตท. เข้าพบ นายอรรถพงศ์ พันธุ์รัตน์ รองกงสุลใหญ่ รักษาราชการแทนกงสุลใหญ่ไทยประจำนครแฟรงก์เฟิร์ต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อประสานงานขอพบตำรวจและอัยการของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในวันพฤหัสบดีที่ 25 ม.ค.67 เพื่อเคลียร์ประเด็นข้อเท็จจริง ที่มีสื่อต่างประเทศนำเสนอข่าว นายเจนจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ และประกันตัวกลับประเทศ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร. ยืนยันกับนายอรรถพงศ์ รักษาราชการแทนกงสุลใหญ่ ว่า ที่มาในวันนี้ก็เพราะ ต้องการทำความจริงให้ปรากฏ เรื่อข้อเท็จจริงกรณี นายเจน คริช จ่ายเงินไป 1 ล้านบาท เพื่อแลกการประกันตัว นายเจนได้จ่ายให้กับใคร และเป็นเงินค่าอะไรกันแน่ หรือเป็นเงินสินบนที่จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ
...
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ทราบว่า เงินจำนวนดังกล่าวได้จ่ายให้กับทนายความไป โดยเงิน 500,000 บาท ถูกใช้ไปในการวางเงินประกันตัวที่ศาล ต่อมา นายเจน คริช ผิดนัดไม่มาศาล ถูกยึดเงินประกันรวม 700,000 บาท และถูกศาลออกหมายจับ แต่สื่อต่างประเทศกลับเสนอข่าวเป็นเรื่องของการจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหาย ทั้งในแง่มุมของการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก และในแง่มุมของการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเยอรมัน หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่อยากเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพราะเกรงกลัวอิทธิพลของเจ้าหน้าที่รัฐ และยังส่งผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ที่เป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ และเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อนำรายได้เข้าประเทศ ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศดีขึ้น
รักษาราชการแทนกงสุลใหญ่ บอกว่า นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน ถือเป็นอันดับ 2 ในสหภาพยุโรปรองจากอังกฤษ (ยกเว้นรัสเซีย) ที่เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไทยมากที่สุด จึงพร้อมสนับสนุนภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ หากมีประเด็นที่จะต้องประสานงานติดตามผลในเรื่องใด ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือดำเนินการ ร่วมมือกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยต่อไป