“สมรักษ์” ย่องมอบตัวกลางดึกปฏิเสธ 4 ข้อหาหนัก ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวและสังคมทำเรื่องเดือดร้อน ยืนยันไม่ทราบว่าเด็กสาวคู่กรณีอายุเพียง 17 ปี ขอแก้ไขสิ่งผิดพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตำรวจเผยยังไม่มีการสอบสวนเหตุนักชกดังอ้างขอตั้งสติ โยนทนายพิมพ์คำให้การมอบภายใน 15 วัน พร้อมปล่อยตัวเหตุไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ออกหมายเรียกรุ่นน้องคนสนิทขี่รถ จยย.ไปส่งโรงแรมรับทราบ 2 ข้อหา ขุดประวัติพบเพิ่งถูกดำเนินคดีเป็นธุระจัดหา “บิ๊กโจ๊ก” แนะควรให้การรับสารภาพ โทษหนักจะได้เป็นเบา ขณะที่เพื่อนสาว 17 ไลฟ์แจงชวนกลับถูกชักสีหน้าใส่จะไปกับนักชกดังท่าเดียว

จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตทหารเรือและนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก เจ้าของฉายา “โม้อมตะ” ในข้อหากระทำอนาจาร หลังไป เที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น ขณะที่ น.ต.สมรักษ์เปิดใจไม่ได้ข่มขืน เจอกันในผับก่อนพาเข้าโรงแรม แต่ไม่ได้ล่วงเกิน รู้ภายหลังเป็นเด็กจึงหยุด ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี, ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร, กระทำอนาจาร แก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี และพยายาม ข่มขืนผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 13 ธ.ค. ที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น น.ต.สมรักษ์ คำสิงห์ พร้อมพี่ชายและเพื่อนสนิท เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น นำโดย พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาประมาณ 30 นาที น.ต.สมรักษ์เดินทางกลับออกมา พร้อมกับให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

...

น.ต.สมรักษ์เปิดเผยว่า ต้องกราบขอโทษ ครอบครัวตนเอง ขอโทษครอบครัวน้อง ขอโทษชาวไทย และชาวขอนแก่น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดของตัวเองเพราะไม่ทราบว่าน้องอายุ 17 ปี เข้าใจความรู้สึกของทุกคนและขอแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด เมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้วต้องตั้งสติหาทางแก้ไข และพร้อม เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จากนั้นเดินทางกลับทันที

พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า น.ต.สมรักษ์ติดต่อพบ พนักงานสอบสวน ที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น โดยมีจุดประสงค์เข้ามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาแต่ยังไม่มีการสอบสวน เนื่องจาก น.ต.สมรักษ์อ้างขอไปตั้งสติก่อนจะให้ทนายความพิมพ์คำให้การมามอบให้ภายใน 15 วัน การมาพบตำรวจไม่มีทนายความยังไม่พร้อมให้การ

“น.ต.สมรักษ์ ผู้ถูกกล่าวหา ไม่มีท่าทีเครียดฝากขอโทษทุกฝ่าย ขอโทษสังคม รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น คือ ความผิดพลาด เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาประสงค์จะ มอบตัวและแสดงความบริสุทธิ์อยู่แล้ว พนักงานสอบสวน มีการประชุมกันแล้วเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่มีพฤติการณ์ หลบหนีตำรวจไม่ได้มีการควบคุมตัวไว้” พ.ต.ท.ศุภฤกษ์กล่าว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ส่งหมายเรียกนายพิเชษฐ์ หรือแป้กโก้ ชิเนหันทา ชาว ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น รุ่นน้องคนสนิท น.ต.สมรักษ์ คนขี่รถ จยย.พาผู้ถูกกล่าวหาและผู้เสียหายไปส่ง โรงแรมที่เกิดเหตุมารับทราบข้อกล่าวหา คือ ร่วมกัน พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี และ ข้อหาร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร สำหรับนายพิเชษฐ์เป็นผู้ตัดสิน กีฬาฟุตบอลหลายเกมที่สำคัญเคยถูกตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ดำเนินคดีข้อหาเป็นผู้จัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่ง บุคคลใดให้เพื่อบุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม พนักงานสอบสวนส่งฟ้องศาลจังหวัดขอนแก่น เมื่อช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณี น.ต.สมรักษ์ มอบตัวต่อพนักงานสอบสวนหลังถูกออกหมายเรียกเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาว่า น.ต.สมรักษ์ควรให้การ รับสารภาพเพราะอาจเป็นเหตุบรรเทาโทษจากหนักเป็นเบาได้ เนื่องจากเป็นบุคคลมีชื่อเสียงเคยทำประโยชน์ ให้ประเทศชาติ ประกอบกับข้อหาดังกล่าวมีอัตรา โทษสูง อีกทั้งพยานหลักฐานบ่งชี้ชัดว่าเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงและเด็กยืนยันถูกล่วงละเมิดทางเพศ

ส่วนกรณีที่โซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์เด็กอายุ 17 ปี มีเจตนา หรือมีการวางแผนมาก่อนหรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า กฎหมายคุ้มครองเด็กทั่วโลก เหมือนกันคือ ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ การกระทำของผู้ใหญ่ถือว่าเข้าข่ายกระทำความผิดทั้งหมด ตนมองว่า น.ต.สมรักษ์ควรรู้เรื่องนี้ เพราะมีบุตรสาว อ้างว่า ไม่รู้เป็นเด็กไม่ได้ สำหรับน้องชาย น.ต.สมรักษ์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาใน 2 ฐานความผิด เนื่องจากพบว่า มีการร่วมกันพาและพรากผู้เยาว์ โดยเป็นผู้ขี่รถ จยย. พา น.ต.สมรักษ์ และเด็กอายุ 17 ไปโรงแรม อีกทั้ง เป็นคนส่งสัญญาณให้เด็กอายุ 17 เดินตาม น.ต.สมรักษ์ เข้าโรงแรมไปทั้งที่ไม่ใช่ที่พักของเด็ก

ขณะเดียวกัน น.ส.ฟ้า และ น.ส.ฝน (นามสมมติ) เพื่อนของ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้เสียหาย ไลฟ์ผ่านโซเชียลมีเดีย หลังปรากฏภาพในกล้องวงจรปิด เป็นกลุ่มเพื่อนที่ยืนอยู่กับผู้เสียหายด้านหน้าสถาน บันเทิงช่วงที่ร้านปิด ก่อนผู้เสียหายขึ้นรถ จยย.ซ้อนสาม ไปกับนักชกดัง น.ส.ฟ้า และ น.ส.ฝนกล่าวว่า ออกมา ไลฟ์เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเองจะไม่พูดเกี่ยวกับคดี ของผู้เสียหาย แต่พวกตนถูกนำภาพไปโพสต์ในโซเชียล ทำให้คนเข้าใจผิด ถูกสังคมด่าทอว่าทอดทิ้งเพื่อนต้องขออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

...

ทั้งสองคนกล่าวต่อว่า เพิ่งรู้จักกับผู้เสียหายวันไปสถานบันเทิง เพื่อนที่รู้จักกับผู้เสียหายชักชวนผู้เสียหายมาเที่ยวด้วยกัน พวกตนไม่รู้มาก่อน จากนั้น นั่งกินดื่มในร้านกันตามปกติ 4 คน ต่อมาตนเดินไป เข้าห้องน้ำ ออกมาเห็นผู้เสียหายอยู่ที่โต๊ะนักมวย เมื่อเข้าไปสอบถามว่า ทำไมมาอยู่โต๊ะนี้ ผู้เสียหายไม่ตอบ พวกตนพากันกลับไปที่โต๊ะ กระทั่งร้านปิดพากันไปยืนอยู่ที่หน้าร้าน ตนถามผู้เสียหายว่า “จะไป กับเขาจริงๆเหรอ” และยังมีเพื่อนผู้ชายอีกคนที่อาสา จะไปส่งผู้เสียหายกลับห้องพักโดยพาซ้อน จยย.กลับไป กับเพื่อนคนอื่นๆ แต่ผู้เสียหายชักสีหน้าไม่พอใจเพราะ ต้องการจะไปกับนักมวย และเห็นผู้เสียหายเดินไปหา นักมวยแล้วนั่งซ้อนรถ จยย.ออกไปด้วยกัน เพื่อนทุกคน งงกันหมด และทุกคนเมาด้วยจึงพากันแยกย้ายกลับ

จากนั้นเพื่อนผู้ชายที่รู้จักกับผู้เสียหายส่งข้อความ แชตมาถามตนว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมผู้เสียหายให้พาไป แจ้งความ ตนยืนยันว่าไม่ทราบ ช่วงที่เข้าผับไม่ได้สนใจ ว่าใครจะเข้าได้ไม่ได้ แต่ทุกคนเข้าร้านได้และเที่ยวตามปกติ พวกตนไม่ได้อายุ 17 ปี ขอให้ทุกคนที่ นำภาพของพวกตนไปโพสต์จนเกิดความเสียหายขอให้ลบและหยุดแชร์ หากไม่หยุดจะดำเนินการตามกฎหมาย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีมีข้อ สังเกตสถานบันเทิงหลายพื้นที่หละหลวมปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการว่า ได้ย้ำกับฝ่าย ปกครองให้ถือปฏิบัติว่าการแสดงตัวเข้าใช้บริการต้องแสดงบัตรประชาชนตัวจริง ไม่ใช่ถ่ายรูปแล้วเปิด ให้ดูจากโทรศัพท์แล้วปล่อยให้เข้าไป อย่าพยายาม เลี่ยง เพราะยิ่งเลี่ยงกฎหมายเท่าไหร่ ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกตรวจค้นจับกุมดำเนินคดี สถานบันเทิงลงทุนกัน มากจะทำมาหากินอะไรควรทำให้ถูกกฎหมาย เมื่อถามว่าในบางสถานที่อาจมีคนมีสีเข้าไปมีหุ้นส่วน ทำให้เกิดความเกรงใจในการตรวจสอบ นายอนุทิน ย้อนถามว่า “ใครที่มีสี สีอะไร”

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่