นศ.สาวพม่า โร่แจ้งจับ นักมวยหนุ่มหน้าตาดีชาวอิหร่านสุดแสบ หลังคบหาเพียง 5 เดือน ใช้โยเกิร์ตมอมยา ฉกทรัพย์มูลค่ากว่า 24 ล้านบาท เผ่นหนีออกนอกประเทศลอยนวล ตำรวจ สน.พระโขนง เตรียมประสานตำรวจสากลขอหมายแดงตามล่าตัว

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2566 พ.ต.อ.โอภาส หาญณรงค์ ผกก.สน.พระโขนง รับแจ้งจาก ร.ต.ท.ปฎิพล ท้าวแก่นจันทร์ รอง สว.(สอบสวน) สน.พระโขนง ว่าเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) เวลา 13.40 น. ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิง สัญชาติเมียนมา เดินทางเข้าแจ้งความว่า ได้คบหากับ MR.MALEKI BEHNAM อายุ 21 ปี สัญชาติอิหร่าน หนังสือเดินทางเลขที่ V60135741 มาประมาณ 5 เดือน และอาศัยอยู่กินด้วยกันที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 50 ถ.อาจณรงค์ แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. กระทั่งช่วงเช้าวันที่ (4 ธ.ค.) ตื่นมาพบว่าทรัพย์สินของ Miss NANG MWE HLAING ได้หายไปหลายรายการ อาทิ เงินสด 4 แสนบาท, นาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ ราคาประมาณ 6 แสนบาท, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone 15 จำนวน 1 เครื่อง และ iPhone 13 อีก 1 เครื่อง, ไอแพด, เงินในกระเป๋าอีก 1 หมื่นบาท, เหรียญดิจิทัล มูลค่าประมาณ 23 ล้านบาท และบัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ ได้หายไป 

ต่อมาผู้เสียหายจึงเดินทางไปยังค่ายมวยที่ MR.MALEKI ชาวอิหร่าน ฝึกซ้อมอยู่นั้น จนทราบว่า MR.MALEKI ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้วตั้งแต่ช่วงเวลา 08.30 น. ของวันที่ 4 ธ.ค. จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.พระโขนง 

นอกจากนี้ ผู้เสียหาย ยังให้การว่า ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ก่อนเกิดเหตุ ทางชายชาวอิหร่านได้นำโยเกิร์ตมาให้ผู้เสียหายดื่มกิน จากนั้นทำให้สลบไปแบบไม่รู้ตัว กระทั่งตื่นอีกทีเที่ยงวันก็มาพบว่าทรัพย์สินได้หายไป รวมถึงคีย์การ์ดห้องพัก ทำให้ไม่สามารถออกจากคอนโดฯ ได้

...

ด้าน ร.ต.ท.ปฎิพล กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย เมื่อตรวจสอบจากทาง ตม. ก็พบว่าผู้ต้องหาเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว จึงหาวิธีช่วย โดยพบว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่ถูกโอนออกไปของผู้เสียหาย เป็นของประเทศจีน ที่ กลต.ไม่รองรับ และต้องใช้รหัส 8 หลัก ตนจึงค้นหาจนเจอเฟซบุ๊กของน้องสาวผู้เสียหาย จนได้รหัสทั้ง 8 หลักมา เนื่องจากมือถือของผู้เสียหายถูกคนร้ายซึ่งรู้รหัสเข้าวอลเล็ตด้วย จากนั้นเมื่อเข้าไปเช็กเงินในวอลเล็ตผู้เสียหาย พบว่าเงินทั้งหมดได้หายไป จากนั้นจึงส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจหาสารกดประสาทหรือยานอนหลับ ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ แต่ยังไม่พบ จึงต้องให้ไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ไปเก็บพยานหลักฐานเป็นแก้วโยเกิร์ตที่คอนโดฯ จุดเกิดเหตุ คาดว่าจะต้องรอผลไม่ต่ำกว่า 1 เดือน

พ.ต.อ.โอภาส กล่าวว่า จากการสอบถามหญิงเมียนมาผู้เสียหายทราบว่า มีโทรศัพท์จำนวน 3 เครื่องที่หายไป เป็นโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และ iPad 1 เครื่อง และตรวจสอบพบว่ามีพิกัดมาโผล่อยู่บริเวณในคลองซอยภูมิจิตร แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. จึงให้อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมกันงมหามือถือของกลาง ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ เชื่อว่าน่าจะติดตัวไปกับผู้ต้องหา 

ส่วนของตัว MR.MALEKI ชาวอิหร่าน นั้นยืนยันว่าได้เดินทางออกจากประเทศไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้ประสานให้สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนำภาพวงจรปิดขณะ MR.MALEKI เดินเข้าออกสนามบิน เพื่อนำมาประกอบกับสำนวนในการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้มีรายงานแจ้งว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำชุดประดาน้ำลงพื้นที่งมค้นหาของกลางมือถือดังกล่าว บริเวณคลองภายในซอยภูมิจิตร โดยใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง กระทั่งพบโทรศัพท์ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น 15 โปร จำนวน 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้เสียหายได้มาเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ และได้ทำธุรกิจเปิดร้านอาหาร ก่อนจะรู้จักกับฝ่ายชายซึ่งมาเรียนซ้อมนักมวยที่ประเทศไทย เป็นคนหน้าตาดี และเกิดชอบพอกัน หลังเกิดเหตุก็มีอาการเครียดเสียใจป็นอย่างมาก เพราะทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปเป็นของครอบครัวที่ให้มาเป็นทุนทำธุรกิจ และเรียนหนังสือ

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนเตรียมขอศาลเพื่อออกหมายจับ และออกหมายเรดโนติส หรือหมายจับสากล เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.