ศึกผู้เฒ่า น้องเขยโหดไม่พอใจคว้าลูกซองจ่อยิงพี่เมียดับคาที่ พบมีปัญหากันมานาน จนวันนี้ได้ทาสีทับเสารั้วบ้านและเกิดปากเสียง ผู้ก่อเหตุได้เข้าไปตบหน้าภรรยาผู้เสียชีวิต ขณะเดียวกันผู้ตายทราบเรื่องจะมาเคลียร์จึงถูกยิงกลางอก

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 22 พ.ย. 66 ร.ต.ท.วีระพล เกษกำจร รอง สว.สอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดหน้าบ้านเลขที่ 50 ซอยวัดชมภูเวก 5 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพร่วมกตัญญู เจ้าหน้าที่กู้ชีพพระนั่งเกล้า และแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รุดตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รอง ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.

    

ที่เกิดเหตุเป็นกลางถนนในซอยหน้าบ้าน พบผู้เสียชีวิตเป็นชายชื่อนายอุทัย วัลลาราช อายุ 74 ปี อาชีพขายติ่มซำ อยู่บ้านเลขที่ 52 ซอยวัดชมภูเวก 5 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี ถูกยิงเข้าหน้าอก 1 นัด นอนจมกองเลือดเสียชีวิต ส่วนในรั้วบ้านเลขที่ 52 พบอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ลูกซอง 12 นัด ตกอยู่ 1 กระบอก ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายสมพงษ์ ชุ่มเพ็งพันธุ์ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ซอยวัดชมภูเวก 5 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องเขยผู้เสียชีวิต เนื่องจากภรรยาผู้ก่อเหตุเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้เสียชีวิต 

    

นางพัชร์จีรา จารุพงษ์สกุล อายุ 71 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ตนกำลังทาสีอยู่ที่กำแพงรั้วหน้าบ้านติดกันกับบ้านผู้ก่อเหตุ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินมาถามว่าทาสีมาที่กำแพงรั้วบ้านเขาทำไม ซึ่งตนไม่ได้ทาสีทับรั้วบ้านเขา แต่เขาได้เอาสีเหลืองมาทาทับเสารั้วบ้านผู้เสียชีวิต แต่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าเขตรั้วบ้านเขาอยู่ลึกกว่านี้ จากนั้นได้ใช้ปากกาสีฟ้าขีดเส้นบนกำแพงรั้วบ้านผู้ตาย ทำให้นางพัชร์จีราชี้หมุดที่ดินให้ดูว่าอยู่ตรงไหน หลังจากลุกขึ้นยืนผู้ก่อเหตุได้เดินตรงเข้ามาหาและตบไปที่ใบหน้าข้างซ้าย จนแว่นตาหัก มีรอยช้ำเหนือตาซ้าย และข้างกกหูซ้าย ตนจึงโทรศัพท์แจ้งสามีที่กำลังขายของอยู่ ทำให้สามีขับรถจยย.เข้ามาในซอย แล้วตะโกนถามผู้ก่อเหตุว่าเป็นนักเลงเหรอ ขณะนั้นตนคิดว่าผู้ก่อเหตุได้เตรียมอาวุธไว้ก่อนแล้ว พอสามีถามว่านักเลงเหรอ เขาก็ยิงทันที 

...

     

ส่วน น.ส.วรรษมน ศิริวชิโรวัฒน์ อายุ 49 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเห็นว่าเขาทาสีล้ำมาที่กำแพงบ้านตนมา 3 วันแล้ว แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร วันนี้ตนกำลังทาสีอยู่กับช่าง ผู้ก่อเหตุได้เดินออกมาที่หน้าบ้าน แม่ตนจึงได้ถามว่ามาทาสีล้ำรั้วบ้านแม่ทำไม ซึ่งแม่เล่าให้ฟังว่าเขาตบแม่จนแว่นหัก ตนจึงถามว่ามาตบแม่ตนทำไม ผู้ก่อเหตุอ้างว่าแม่ด่าเขา และเขายังได้ขู่ พยายามทำร้ายตน พยายามจะเตะ จากนั้นแม่ได้โทรศัพท์หาพ่อที่กำลังขายของอยู่ พ่อจึงเข้ามาเป็นจังหวะที่เขาเดินออกมา พ่อจึงถามว่ามึงนักเลงมากเหรอ ขณะนั้นตนอยู่ข้างๆพ่อ ผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมายิงใส่พ่อทันที ซึ่งตอนนั้นตนไม่เห็นพ่อว่าอยู่ตรงไหน หันกลับไปมองอีกทีพ่อได้ล้มลงและเลือดไหล ส่วนตนได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย ตนจึงได้วิ่งเข้าไปดูพ่อ

    

นางเพ็ญ ชุ่มเพ็งพันธุ์ ภรรยาผู้ก่อเหตุ อายุ 70 ปี กล่าวว่า สามีเป็นคนใจร้อน ก่อนหน้านี้ประมาณ 30 ปี ตอนที่สร้างบ้านเคยมีปัญหากันเรื่องเงิน จากนั้นสามีตนก็เก็บเรื่องสะสมมาตลอด ส่วนลูกสาวเขาปกติก็จะมาคุยกับตนประจำ


ด้าน นายสมพงษ์ ชุ่มเพ็งพันธุ์ อายุ 74 ปี ผู้ต้องหา กล่าวว่า มีปัญหาทะเลาะกันตั้งแต่เขาให้ตนสร้างบ้านให้ พอสร้างเสร็จไม่ยอมจ่ายเงินให้ ราคาตอนนั้น 250,000 บาท แต่ราคาจริง 400,000 บาท ตนสร้างให้ไม่ได้เอากำไร เอาแค่ค่าวัสดุและค่าแรง วันนี้สาเหตุเกิดจากเรื่องขอบเขตที่ดิน ตนบอกว่าหลักเขตอยู่ตรงนี้แต่เขาบอกไม่ใช่ ให้เอาเจ้าหน้าที่มารังวัดสอบเขตได้เลย จากนั้นก็มีเรื่องทะเลาะผมไปตบเมียเขาไป 1 ครั้ง เมียเขาก็โทรเรียกผู้เสียชีวิตมา เมื่อสามีเขามาถึงก็ด่าผมเลย ทั้งคนตายและลูกสาว ส่วนปืนผมมีมานานพกอยู่ที่ตัวอยู่แล้ว และขณะที่เขาปรี่เข้ามาหา ตนก็ถอยหลังทำอะไรไม่ถูก ก็บอกว่ากูมีปืนนะ แต่เขาไม่กลัวยังเข้ามาอีก จึงชักปืนยิงสวนไป 1 นัด ซึ่งคนตายมีศักดิ์เป็นพี่เมียของผม ซึ่งมาปลูกบ้านติดกันมานานแล้ว โดยเขาชวนผมมาอยู่ข้างๆ ซึ่งผมยอมรับผิดก่อเหตุยิงเขาตายจริง ตอนนี้ผมมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน หอบหืด มะเร็ง ขณะนี้ลูกๆ ของผมยังไม่รู้เรื่อง


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ที่บ้านเลขที่  50 ซึ่งเป็นบ้านของผู้ก่อเหตุ และได้เก็บอาวุธปืนของกลางเพื่อส่งตรวจแล้ว สำหรับร่างผู้เสียชีวิตพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนส่งชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนทางด้านคดีได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะมีการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม.