ตำรวจบุกจับ 2 หนุ่ม เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ย่านพุทธมณฑล ยึดยาบ้ากว่า 3 ล้านเม็ด-ไอซ์ 24 กก.-ยาอี 9 พันเม็ด ขยายผลจากการค้ายานรกผ่านทวิตเตอร์

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 พ.ย. 66 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย นายอุดมชัย โลหณุต ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ส., พ.ต.อ.สามารถ พรหมชาติ รรท.ผบก.น.6, พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.กก.สส.บก.น.6, พ.ต.ท.วิสิทธิ์ สายบัวทอง รอง ผกก.กก.สส.บก.น.6, พ.ต.ต.ปัณณวัชร์ จิรัฐธรรมฤทธิ์ สว.กก.สส.บก.น.6 และชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.6 ร่วมกันจับกุม นายต้น ตาใจ อายุ 25 ปี ชาว จ.เชียงราย และ นายณรงค์เกียรติ ดวงศรี อายุ 25 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี พร้อมอาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก แมกกาซีน 1 แมก บรรจุกระสุนจำนวน 16 นัด ยาบ้า 3,080,000 เม็ด ยาไอซ์ 24 กิโลกรัม ยาอี รวมประมาณ 9,000 เม็ด และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยจับกุมได้บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านกิตติชัย 12 ม.2 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.ทินกร เปิดเผยว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนผู้ค้ายาเสพติดทางสื่อออนไลน์ทวิตเตอร์ จนสามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดโดยการโพสต์ขายทางทวิตเตอร์ ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 66 ได้สืบสวนขยายผลจับกุมอีก 4 คน ผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายฝั่งธนฯ ได้ของกลางยาบ้า 228,800 เม็ด ยาไอซ์ 33 กก. เคตามีน 36 กก. และเฮโรอีน 1 กก. จากนั้นจึงขยายผลจับกุมผู้ต้องหารายนี้

ด้าน พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนเฝ้าสะกดรอยกว่า 2 เดือน ติดตามพิสูจน์ทราบตัวบุคคลคือ นายต้น และ นายณรงค์เกียรติ ที่นำยาเสพติดมาส่งและทราบสถานที่เก็บยาเสพติด อยู่ที่ย่านพุทธมณฑล จนกระทั่งวันที่ 9 พ.ย. 66 เวลาประมาณ 00.45 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเป็นบ้านพักที่ใช้ในการเก็บยาเสพติด พบผู้ต้องหาทั้งสอง โดย นายณรงค์เกียรติ ถือถุงพลาสติกอยู่บริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวขอทำการตรวจค้นพบว่า พกอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. พร้อมแมกกาซีน บรรจุกระสุนจำนวน 16 นัด

...

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสอบถาม นายต้น และ นายณรงค์เกียรติ ให้การยอมรับว่า ภายในบ้านพักซึ่งเป็นบ้านเช่า มียาเสพติดหลายรายการซุกซ่อนอยู่ จึงได้สมัครใจและยินยอมพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในบ้าน กระทั่งพบยาเสพติดของกลางที่บริเวณชั้น 1

จากการสอบถามผู้ถูกจับทั้งสอง ให้การยอมรับว่า เป็นเจ้าของยาเสพติดจริง โดยมีหน้าที่ในการนำยาเสพติดมาเก็บไว้ในบ้านพัก และรับคำสั่งจากผู้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ชื่อว่า "ตะเวน แสวงหา" พักอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน สั่งการให้นำยาเสพติดไปส่งลูกค้า โดยจะได้รับค่าจ้างคนละประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน ทำมาแล้ว 2 ปี โดยรับยาเสพติดจากจังหวัดทางภาคกลาง แล้วนำมาพักไว้ที่บ้านเช่าย่านพุทธมณฑล

ส่วนการแบ่งหน้าที่กันนั้น นายต้น จะทำหน้าที่ขับรถ ส่วน นายณรงค์เกียรติ นำของไปส่งตามจุดที่มีการนัดหมาย ส่วนมากเป็นปริมณฑล ผู้สั่งการอยู่ระหว่างการขยายผลจับกุม จากการขยายผลตรวจสอบข้อมูลการสนทนา พฤติกรรมอยู่ในบ้านเช่าเพื่อเก็บยาโดยเฉพาะ ส่วนประวัติคดีเก่าจากการตรวจสอบพบว่า นายณรงค์เกียรติ ครอบครองยาเสพติดในพื้นที่ จ.นครปฐม

เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า, ยาไอซ์ และยาอี) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย อันเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป" และแจ้งข้อกล่าวหา ณรงค์เกียรติ เพิ่มเติม ตามความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีต่อไป.