ตำรวจไซเบอร์บุกบ้านหนุ่มหัวร้อน โพสต์ด่า-ขู่ฆ่า "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี เจอตัวเชิญสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อหา ม.392 เจอคุก 1 ปี ปรับ 1 หมื่น เจ้าตัวรับสารภาพ ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบขาดสติ ผิดหวังการเมืองไทย กับคำสัญญาที่เคยให้ไว้

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1  

นำหมายค้นศาลแขวงธนบุรีที่ ค.32/66 ลงวันที่ 6 พ.ย. เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 86/23 ซอยสวนหลวง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. เพื่อตรวจค้นหาพยานหลักฐาน กรณีมีผู้ใช้แพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์) รายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความในลักษณะดูหมิ่นให้ร้ายคุกคามนายกรัฐมนตรี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา ทางศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ Anti Online Scam Operation Center (AOC) สายด่วน 1441 ของตำรวจ สอท. ได้ตรวจสอบพบผู้ใช้แพลตฟอร์มเอ็กซ์รายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความในลักษณะดูหมิ่นให้ร้ายคุกคาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ด้วยข้อความว่า "ฆ่าไอเหี้ยโย่งนี้ได้ประเทศไทยมันจะดีขึ้นมากกว่านี้" และ "ใครฆ่าเหี้ยนี้ได้กุจะรวมเงินจ่ายให้เลยกุเป็นioน้าจ้า" ซึ่งมีภาพของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี อยู่ใต้ข้อความดังกล่าว

...

จากการตรวจสอบพบว่า นายกฤษฎา ปานบ้านแพ้ว หรือแบงค์ อายุ 29 ปี เป็นผู้โพสต์ข้อความ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นศาลแขวงธนบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพร้อมกับหมายเรียกเพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ เมื่อไปถึงพบนายกฤษฎาพักอาศัยอยู่ภายในบ้านดังกล่าว 

จากการสอบปากคำนายกฤษฎา ให้การว่า ขอโทษที่กล่าวล่วงเกิน ส่วนเรื่องของกฎหมาย ถ้าเกิดมีการแจ้งความเป็นผู้เสียหาย ก็ยินดีไปสถานีตำรวจ เพื่อทำการรับทราบข้อกล่าวหากับสิ่งที่ผมทำ เพราะคำพูดผมเป็นนายตัวเอง 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าในการโพสต์ข้อความ 2 ครั้ง มาจากการที่ดูและติดตามข่าว และผิดหวังกับพรรคการเมืองที่ผมเชียร์ รู้สึกผิดหวัง เพราะว่าหลังเลือกตั้งกับก่อนเลือกตั้ง มันหนังคนละม้วน บวกกับเวลาโพสต์ได้ดูข่าวสารแล้วรู้สึกว่าการที่ออกมาพูดมันไม่เหมือนสิ่งที่สัญญาไว้ในทุกๆ เรื่อง บวกกับการกระทำต่างๆ ของพรรค ผมเลยรู้สึกโมโหทุกครั้งกับการกระทำ ซึ่งภายหลังที่โพสต์ไป ตนก็ถูกขุดภาพ ประวัติส่วนตัว ถูกข่มขู่กลับด้วย และได้ออกมาโพสต์ข้อโทษยุติทุกอย่าง 

อย่างไรก็ตาม ขอโทษในสิ่งที่ผมโพสต์ด่า และแสดงเจตนาที่ไม่เหมาะสมออกไป ด้วยอารมณ์และความไม่ยั้งคิดยั้งทำ ทำให้ผมขาดสติ จนทำให้เกิดความไม่พอใจ จะปรับปรุงการกระทำ คิดให้เยอะขึ้น และจะขอยุติเป็นแค่ผู้อ่านข่าวอย่างเดียว โดยไม่แสดงความคิดเห็นอะไร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปสอบปากคำที่ บก.สอท.1 พร้อมแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา ม.392 "ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.