พ่อโร่พาฝาแฝดปืนโหด นศ.ปวส.ปี 2 “ช่างอุต” เข้ามอบตัวตำรวจ หลังถูกชุดสืบ 4 และ สน.ประเวศ ไล่ล่ากดดัน แฝดน้องสารภาพสิ้นไส้เป็นคนลั่นไกฆ่าเหยื่อ อ้างขี่รถเจอกันแล้วเกิดเขม่น หลังก่อเหตุเอาเสื้อผ้าที่ใส่ก่อเหตุ รถ จยย. และปืนไปซ่อน แต่ตำรวจตามกลับมาเป็นของกลางได้แล้ว แจ้งข้อหาหนักฆ่าคนตายโดยเจตนา ไม่ให้ประกัน เตรียมส่งฝากขัง 6 พ.ย.

กรณีนักเรียนนักเลงโหดก่อคดีอุกฉกรรจ์กลางกรุง ซิ่งรถ จยย.ปาดรถ จยย.ของ 2 วัยรุ่นอายุแค่ 19 ปี เตรียมข่มขู่ตบหัวเข็มขัด แต่หลังพบว่าไม่ได้ใส่เข็มขัดสถาบันไหนเพราะไม่ได้เรียน ยังแสดงพฤติกรรมเถื่อนชักปืนจ่อยิงใส่ท้อง 1 นัด อาการสาหัสไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ตำรวจ บก.น.4 เต้น ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ล่าตัวผู้ก่อเหตุที่เชื่อว่าเป็นนักเรียนอาชีวะสถาบันใดสถาบันหนึ่งตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 พ.ย. พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ยุทธภัณฑ์ศิริกุล รอง ผกก.สส.สน.ประเวศ พ.ต.ต.สำเริง บำรุง สว.สส.สน.ประเวศ และ ร.ต.อ.ธีระพล ชุมชาตรี รอง สว.สส.สน.ประเวศ พร้อมกำลังจับกุมนายยศพร หรือโน้ต กระแซง อายุ 19 ปี และนายยศกร หรือน็อต กระแซง อายุ 19 ปี 2 คู่แฝด นักศึกษาชั้น ปวส. ปี 2 วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ของกลางปืนลูกโม่สมิธแอนด์เวสสันขนาด .32 รถ จยย.ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีขาว ทะเบียน 4 ขศ 8133 กรุงเทพมหานคร และชุดที่ใส่ในวันที่ก่อเหตุหลังผู้ปกครองพามามอบตัวช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

...

สืบเนื่องจากหลัง 2 มือปืนฝาแฝดก่อเหตุยิงนายคูณทรัพย์ ปัดนาวาส อายุ 19 ปี เสียชีวิต บริเวณปากซอยอ่อนนุช 70 ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.4 และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ ส่งกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี พบว่า คนร้ายทั้ง 2 คน ขี่รถ จยย. ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีขาว ทะเบียน 4 ขศ 8133 กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบผู้ครอบครองรถ จยย.คันดังกล่าวเป็นผู้หญิง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรพบว่ามีลูกชาย 2 คนเป็นลูกที่เกิดกับนายสุพจน์ กระแซง อาศัยอยู่เลขที่ 199/80 ซอยร่มเกล้า 11แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งให้นายสุพจน์ บิดา ทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และให้พาลูกชายทั้ง 2 คน ที่เป็นฝาแฝดกันมาพบตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ

สอบสวนนายยศกร หรือน็อต ให้การยอมรับว่า ตนนั่งซ้อนท้ายรถ จยย.มีนายยศพร หรือโน้ต แฝด พี่เป็นคนขี่ ก่อนถึงจุดเกิดเหตุพบผู้เสียหายขี่รถ จยย.ซ้อนสองมา เกิดมองหน้าแล้วเขม่นกันต่างฝ่ายต่างคิดว่าเป็นเด็กช่างอีกสถาบัน ตะโกนโต้เถียงกันไปมา นายสมภพ อาดำ อายุ 19 ปี และนายคูณทรัพย์ ปัดนาวาส อายุ 19 ปี เปิดเสื้อกับเข็มขัดให้ดูว่าไม่ได้เรียน ถึงจุดเกิดเหตุนายคูณทรัพย์ผู้ตายกระโดดลงรถ จยย.ถือหมวกนิรภัยปรี่เข้ามาหาเหมือนจะเข้ามาฟาดตนชักปืนที่เอวยิงสวนไป 1 นัดก่อนหลบหนี เอาปืน เสื้อผ้าที่ใส่ และรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุไปซุกซ่อนไว้บริเวณท้ายซอยกิ่งแก้ว 37 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เบื้องต้นชุดสืบสวนพาตัวทั้งคู่ไปชี้จุดซุกซ่อนของกลาง และตรวจยึดเอามาเป็นหลักฐานสำคัญในคดีแล้ว ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ทำบันทึกจับกุมและสอบปากคำ ส่งเข้าห้องควบคุม รอส่งตัวฝากขังศาลอาญาพระโขนงวันที่ 6 พ.ย.ต่อไป

ด้านนายสุพจน์ บิดาผู้ก่อเหตุ เผยว่า ขอไม่เปิดเผยว่าลูกเรียนสถาบันไหน เพราะจะส่งผลกระทบในวงกว้างส่วนสาเหตุนั้นไม่เกี่ยวกับสถาบัน วันเกิดเหตุไม่รู้ว่าไปเจอกันได้อย่างไร แต่คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน น้องเป็นคนทำมาหากิน เรียนด้วยทำงานด้วย ไม่มีนิสัยเกเร ส่วนเรื่องประกันตัวสู้คดีหรือไม่ แล้วแต่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวนหรือศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่

มีรายงานข้อมูลน่าตกใจว่า สาเหตุที่ผู้ต้องหาฝาแฝดลงมือยิงเหยื่อจนเสียชีวิต เนื่องจากได้รับคำสั่งจากรุ่นพี่ให้ไปตบหัวเข็มขัด 3 หัว และเสื้อช็อปของเด็กช่างสถาบันไหนก็ได้ย่านชานเมืองมา 3 ชุดแล้วจะให้เข้าร่วมแก๊ง คู่แฝดขี่รถ จยย.ตระเวนล่าเหยื่อจนพบผู้เสียหายทั้ง 2 คน ด้วยอายุและลักษณะท่าทาง คิดว่าต้องเรียนอาชีวะที่ไหนสักแห่งแน่ๆ ตัดสินใจเข้าไปก่อเหตุตบหัวเข็มขัดจนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่