ตำรวจนำภาพถ่ายหนุ่มต่างถิ่น ที่มาอาศัยหากินที่ระยอง ก่อเหตุฉุดเซลส์สาวขายรถไปข่มขืน ติดไปทั่วหมู่บ้านธรรมสถิต จ.ระยอง หลังก่อเหตุหนีขึ้นเขา ปฏิบัติการล่าข้ามคืน ล่าสุดพบเบาะแสขโมยมือถือคนกรีดยางไป 2 เครื่อง
จากเหตุคดีความผิดทางเพศ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 30 ก.ย. ร.ต.อ.วีระพงศ์ จำปาแดง ร้อยเวร สภ.สำนักทอง ระยอง ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายฉุดผู้หญิงเข้าไปในป่าเพื่อข่มขืน โดยมีชาวบ้านไปช่วยไว้ เหตุเกิดบริเวณสวนยางพารา ซอยสวนป่า ม.3 ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นป่ารกชัฏ มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุม พบกับ น.ส.แดง (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ผู้เสียหายที่ยืนอยู่ในสวนยางพาราด้วยอาการหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีใบไม้ติดอยู่ที่ผมและเสื้อผ้า เจ้าหน้าที่จึงให้สงบสติอารมณ์ภายในรถ
จากการสอบสวนผู้เสียหาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายชัยยศ อายุ 48 ปี ได้ติดต่อขอซื้อรถกระบะ แต่ไม่สะดวกไปเซ็นสัญญาที่โชว์รูม ตนจึงนำเอกสารมาให้เซ็นตามลำพังคนเดียว แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ริมถนน เห็นพฤติกรรมนายชัยยศไม่น่าไว้ใจ จึงไม่ยอมลงจากรถ นายชัยยศจึงชักมีดออกมาขู่ให้ลงจากรถ ด้วยความกลัวจึงยอมลง หลังจากนั้นนายชัยยศได้ใช้มีดจี้บังคับ แล้วลากเข้าไปในป่าข้างทาง ตนเองพยายามขัดขืนและร้องขอ แต่ก็ไม่เป็นผล นายชัยยศได้ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จนมีชาวบ้านขี่รถผ่านมา หลังจากนั้นนายชัยยศรีบเดินออกไป แล้วขี่รถ จยย.ที่จอดอยู่หลบหนีไป ทางตนเองจึงรีบวิ่งออกมาแล้วเรียกให้ชาวบ้านช่วย จนกระทั่งได้แจ้งตำรวจ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.ระยอง
นายเฉลิม เขียวดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนต่างจังหวัด บ้านเดิมอยู่ จ.สงขลา มารับจ้างกรีดยางพาราให้กับผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งได้ประมาณ 1 ปีเศษแล้ว หลังก่อเหตุนายชัยยศได้เก็บสิ่งของและสัมภาระส่วนตัวหลบหนีไป คาดว่าคงจะหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่บนเขาธรรมสถิต
...
ด้านผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า มาเจอรถยนต์ตอนเปิดประตูอยู่ริมถนน และพบรองเท้าตกอยู่หนึ่งข้าง แล้วก็เห็นว่าผู้ก่อเหตุขี่ จยย.ออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นมีผู้หญิงวิ่งร้องไห้ออกมาขอความช่วยเหลือ จึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยชาวบ้าน ได้ใช้รถ จยย.พร้อมทั้งเดินเท้า ขึ้นไปตามเส้นทางที่มีชาวบ้านเห็นผู้ก่อเหตุหลบหนีขึ้นไปบนภูเขา พร้อมทั้งปิดล้อมตามเส้นทางโดยรอบไว้ แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าที่มีต้นไม้ขึ้นรกครึ้ม จึงยากแก่การติดตาม แต่มีเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งติดตามขึ้นไป ส่วนหนึ่งตรึงกำลังไว้บริเวณเชิงเขา
หลังการค้นหาผ่านไป 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ คาดว่ายังคงซ่อนตัวอยู่บนเขา แต่เนื่องจากเริ่มมืดแล้ว น่าจะตามหาตัวลำบาก จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 1 ต.ค. ได้รับแจ้งจากคนกรีดยางว่า โทรศัพท์หายไป 2 เครื่อง คาดว่าคนร้ายน่าจะดอดมาลักเอาไป
ส.ต.ท.จักรกฤษณ์ งามสงวน ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.สำนักทอง เผยว่า ออกการค้นหากันทั้งคืน มีกำลังเสริมจากชาวบ้าน จิตอาสา และกลุ่มรถวิบาก รวมกว่า 50 คน ปูพรมออกค้นหาได้เบาะแสจากการที่คนร้ายแอบมาขโมยโทรศัพท์ของคนกรีดยาง ที่วางโทรศัพท์ไว้หน้ารถ จยย.หายไป 2 เครื่อง ในช่วง 6 โมงเช้าที่ผ่านมา จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะอยู่ในบริเวณดังกล่าว ทำให้กองกำลังทั้งหมดต้องกระจายกันและปิดล้อมเขาทั้งลูกในเวลานี้ ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ห่างจากบ้านของคนร้ายประมาณ 5 กิโลเมตร ล่าสุดคนร้ายเดินข้ามเขาธรรมสถิตมาเพื่อหลบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณเขาบรุคไซด์ จึงปิดล้อมกดดัน เพราะคนร้ายยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อวาน
ด้านแม่ค้าร้านขายของชำที่ผู้ก่อเหตุมาซื้อของประจำ ยอมรับว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวาดผวา และกลัวคนร้ายจะมาก่อเหตุซ้ำ อยากให้เจ้าหน้าที่ตามจับได้โดยเร็ว เมื่อตอนกลางคืนที่ผ่านมา ต่างพากันปิดบ้านเงียบไม่ออกไปไหน
ส่วนพฤติกรรมและบุคลิกของคนร้ายช่วงก่อนที่จะก่อเหตุ ไม่มีลักษณะก้าวร้าว ไม่มีท่าทางเจ้าชู้ มักจะยืมรถ จยย.ของเพื่อนมาซื้อของ โดยจะซื้อกาแฟทุกวัน และเป็นคนไม่ดื่มเหล้า เป็นคนจากที่อื่นมาอยู่อาศัยกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน.