"ตำรวจไซเบอร์" ตามรวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นสรรพากร หลอกเหยื่อกดลิงก์ ดูดเงินผ่านแอปฯ สูญเกือบ 2 ล้านบาท "ผบก.สอท.1" ฝากเตือนภัย-อย่าลงเชื่อกลโกงมิจฉาชีพ

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือน เม.ย. 66 ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร โทรศัพท์มาแจ้งให้ผู้เสียหายส่งงบการเงินประจำปี ที่ยังค้างชำระและให้อัปเดตข้อมูลส่วนตัวให้เป็นปัจจุบัน พร้อมทั้งใช้แอปพลิเคชัน Line ชื่อ กระทรวงพาณิชย์ ส่งลิงก์มาให้ผู้เสียหาย โดยแจ้งว่าเป็นลิงก์เว็บไซต์ของกรมสรรพากร เพื่อให้ผู้เสียหายกดเข้าไปตรวจสอบว่ามีการค้างภาษีหรือไม่ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงกดเข้าไป จากนั้นโทรศัพท์มือถือได้ค้างและดับไป ต่อมาปรากฏว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย ผ่าน Mobile Banking จำนวน 2 บัญชี รวมเป็นเงิน 1,968,049 บาท ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงได้มาร้องทุกข์กับ บช.สอท. เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาวันที่ 11 ก.ย. 66 พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และ พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน กก.4 บก.สอท.1 ได้นำกำลังเข้าจับกุม นายกำชัย หรือ ปุ๊ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ได้ที่บริเวณบ้านพักภายในซอยเทศบาลบางปู 91 อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ในความผิดฐาน "ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน, ร่วมกันโดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์" นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยถูกจับกุมตัวมาก่อน

...

โดย พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งรู้จักกัน ได้มาขอบัตรประจำตัวประชาชนไป โดยไม่ได้แจ้งว่าจะนำไปทำอะไร พร้อมทั้งให้ค่าตอบแทนมาเป็นเงิน จำนวน 200 บาท จึงเชื่อว่าจะมีการนำบัตรประชาชนของตนไปเปิดบัญชีธนาคาร หรือลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ (บัญชีม้า, ซิมม้า) เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา และกำลังขยายผลไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลังและขบวนการทั้งหมด

นอกจากนี้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ ได้ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่า อย่าได้หลงเชื่อหรือตกเป็นเหยื่อ โดยไม่ควรรับแอดเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่รู้จัก หากจะรับขอให้ตรวจสอบข้อมูลในบัญชีให้ดี รวมทั้งไม่ควรกดลิงก์จากคนแปลกหน้าหรือผู้ที่ไม่รู้จัก เมื่อมีการติดต่อจากผู้ที่อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ ควรตรวจสอบยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ และหากมีการชักชวนลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ และควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของการลงทุนอีกด้วย หากมีข้อสงสัยสามารถปรึกษาสอบถาม สายด่วน ตำรวจไซเบอร์ 1441 ได้ทันที.