"พ.ต.ต.ปภิณวิช" ลูกนายตำรวจดัง ยอมรับกับ DSI รับเงินกว่า 10 ล้านบาท จาก "ร.ต.อ.ณัฐศักดิธัช" อ้าง เป็นค่าเช่าพระเครื่อง-ซื้อขายรถยนต์ ด้าน "ผอ.เค" แย้ม ไล่ตรวจสอบกว่า 20 บัญชี หลังพบเชื่อมโยงเส้นทางการเงิน "น.ส.ชบา" หลักสิบล้าน คาดมีตัวละคร "บิ๊ก" กว่า 2 พี่น้องปธ.สโมสรฟุตบอลดัง

กรณี 2 ลูกชายนายตำรวจดัง ร.ต.อ.ณัฐศักดิธัช พงค์ภิภัทราภาคิน และ พ.ต.ต.ปภิณวิช รอดบางยาง เดินทางเข้าให้ปากคำในฐานะพยานกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ กองคดียาเสพติด ในคดีพิเศษที่ 8/2566 ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์และการฟอกเงิน หลังพบว่ามีความเกี่ยวข้องทางเส้นทางการเงินกับ น.ส.ชบา ปะตะทะกัง (บัญชีม้าหลักให้กับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์และยาเสพติด) ตามที่มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 พ.ค. 66 นายพงษธร อินอำนวย ผอ.กองคดียาเสพติด เปิดเผยว่า วานนี้ พ.ต.ต.ปภิณวิช เข้าชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงินที่ปรากฏในสำนวนคดีเดิม (60/2563) เจ้าหน้าที่พบว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับ ร.ต.อ.ณัฐศักดิธัช โดยได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ชี้แจงทุกเส้นเงิน อ้างว่าเป็นการรับ-โอนเกี่ยวกับการเช่าพระเครื่องและรับซื้อรถยนต์ จำนวนประมาณกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากเจ้าตัวประกอบธุรกิจเต็นท์รถ นอกจากนี้ พ.ต.ต.ปภิณวิช ยังให้การว่าไม่รู้เรื่องที่ ร.ต.อ.ณัฐศักดิธัช เป็นเอเย่นต์เว็บพนัน โดยทั้งคู่มีความสัมพันธ์เป็นเพื่อนตำรวจและเคยอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 ด้วยกันเท่านั้น และเจ้าตัวมารู้เรื่องนี้ตอนที่ถูกจเรตำรวจแห่งชาติสอบสวนเรื่องวินัยว่ามีเรื่องเว็บพนันเข้าไปเกี่ยวข้อง

...

นายพงษธร เผยอีกว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินในสำนวนเดิม ยังไม่พบว่า พ.ต.ต.ปภิณวิช มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับบัญชี น.ส.ชบา (บัญชีม้าหลักขบวนการเว็บพนันและยาเสพติด) อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติมนอกเหนือจากในสำนวนคดีเดิม และถ้าหากพบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือมีเส้นทางเงินใดน่าสงสัย จะต้องขยายผล และเรียกเจ้าตัวเข้ามาชี้แจงอีกครั้งในภายหลัง 

อีกทั้งในการสอบปากคำวานนี้ พ.ต.ต.ปภิณวิช ไม่ได้มีการซักทอดบุคคลใดเพิ่มเติม และที่สำคัญทั้งสองนายตำรวจไม่ได้มีการรู้จักหรือเกี่ยวข้องกับ 2 พี่น้องประธานสโมสรฟุตบอล "บอสตาล-นายพงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก ประธานสโมสรฟุตบอลลำพูนวอริเออร์" และ "บอสต้น-นายศิริพงษ์ ฐาราชวงศ์ศึก ประธานสโมสรพิษณุโลกเอฟซี" 

นายพงษธร เผยด้วยว่า ยังมีบุคคลอีกจำนวนมากที่เกี่ยวข้องผ่านเส้นทางการเงินกับ น.ส.ชบา ในวงเงินหมุนเวียนกว่า 20,000 ล้านบาท โดยจะตรวจสอบบุคคลเหล่านี้ทั้งในมิติของเว็บพนันออนไลน์ ขบวนการยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ หรือธุรกิจผิดกฎหมายอื่นๆ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะขยายผลเพิ่มเติมต่อเนื่อง 

และขณะนี้พบแล้ว 20 บัญชีที่น่าสนใจ โดยพฤติการณ์คือแต่ละบัญชีธนาคารเหล่านี้มีการทำธุรกรรมกับบัญชี น.ส.ชบา หลักสิบล้านบาท หนึ่งในนี้คือบุคคลที่ตัวใหญ่กว่าสองพี่น้องประธานสโมสรฟุตบอล แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร ขอสงวนไว้เป็นรายละเอียดภายในสำนวนเนื่องจากอยู่ระหว่างการขยายผล.