ตำรวจตรวจประวัติไอ้หื่นฆ่าข่มขืนเซลส์สาวขายรถมีคดีโชกโชน พฤติกรรม ไม่สะทกสะท้านต่อความผิด ส่วนแม่เหยื่อร่ำไห้รับศพ เผยลูกเป็นเสาหลักของครอบครัว อยากให้ประหารชีวิตผู้ต้องหาเพราะกลัวไปก่อเหตุซ้ำอีก ขณะที่รอง ผบช.ภ.5 เผยผู้ต้องหาเตรียมการก่อเหตุอย่างดี เปิดโรงแรมแล้วล่อเหยื่อขึ้นรถ ชักมีดจี้นำเชือกมัดมือและผ้าอุดปากพาเข้าโรงแรม มีพฤติกรรมชอบความรุนแรง ไม่พบเป็นโรคจิต
จากเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญชาวเชียงใหม่ นายณัฐพล ผันผดุงทรัพย์ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาฆ่า ข่มขืน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี เซลส์ขายรถโชว์รูมแห่งหนึ่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ทำทีลวงเหยื่อมาติดต่อขอจองรถยนต์ นัดกันที่ร้านกาแฟใกล้โชว์รูมอ้างจะจองรถแต่ไม่ได้กดเงินมา ชวนเซลส์สาวขึ้นรถกระบะตู้ทึบแล้วใช้มีดจี้จับมัดมือใช้ผ้าอุดปากเปิดโรงแรมม่านรูดใน อ.สันทราย ลงมือข่มขืน เหยื่อฮึดสู้เลยโมโหใช้ค้อนตีท้ายทอยและลำตัวจนสลบ จากนั้นใช้เชือกรัดคอจนสิ้นลม เคลื่อนย้ายศพไปซุกอยู่ในโรงแรมม่านรูดอีกแห่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ นำศพไปไว้ในห้องน้ำ แล้วเตรียมตัวหนีแต่ถูกจับกุมเสียก่อน ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน ข่มขืนกระทำชำเรา หน่วงเหนี่ยวกักขัง และซ่อนเร้นอำพรางศพ
ความคืบหน้าเช้าวันที่ 1 พ.ค. ตำรวจ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ คุมตัวนายณัฐพล ผันผดุงทรัพย์ ผู้ต้องหาออกจากห้องขังมาพิมพ์ลายนิ้วมือก่อนจะนำตัวเข้าห้องขังรอสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมจัดเวรยามดูแลอย่างเข้มงวดหวั่นฆ่าตัวตาย แต่พบว่านายณัฐพลไม่ได้มีสีหน้าสลด นอนหลับปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะเดียวกันพนักงาน สอบสวนเรียกพนักงานหญิงโรงแรมม่านรูดที่ อ.เมืองเชียงใหม่ เป็นจุดพบศพในห้องน้ำมาสอบปากคำ ให้การว่า ผู้ต้องหาวางแผนลวงพนักงานหญิงหวังไปข่มขืนในห้องที่พบศพ น.ส.เอ ทำทีแจ้งโทรทัศน์เสียให้พนักงานสาวเข้ามาดู แต่พนักงานไหวตัวทันไม่เข้าไป พร้อมแจ้งว่าจะให้ช่างผู้ชายเข้าไปดู ผู้ต้องหากลับบอกยกเลิก พนักงานหญิงจึงรอดตัว จากพฤติกรรมผู้ต้องหาชอบผู้หญิงใส่แว่นตา ลักษณะเป็นโรคจิตคล้ายฆาตกรรมต่อเนื่อง ตำรวจตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด แต่ให้การว่าเคยเสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้
...
ด้าน พล.ต.ต.วีระชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาล เนื่องจากยังต้องสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้ต้องหายังให้การวกวน และเตรียมส่งตัวไปตรวจร่างกายเพื่อเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบสำนวนคดี ส่วนทีมสืบสวนทำคดีเร่งเก็บหลักฐาน และสอบพยานเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมทำสำนวนคดีส่งฟ้อง ส่วนในช่วงบ่ายจะประชุมทีมสืบสวนอีกครั้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี
นอกจากนี้ ตำรวจตรวจประวัติพบนายณัฐพล ผันผดุงทรัพย์ ผู้ต้องหาก่อคดีมาหลายครั้ง เริ่มจากครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2553 คดีอาญาที่ 550/2553 สน.ท่าพระ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดที่แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. ถูกจับกุมตัวดำเนินคดีแล้ว ครั้งที่ 2 ปี 2556 ทำร้ายร่างกายผู้อื่นในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ครั้งที่ 3 วันที่ 5 ต.ค.2557 คดีอาญาที่ 2448/2557 ท้องที่ สน.บางมด ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ถูกออกหมายจับและจับกุมตัวดำเนินคดี
ส่วนครั้งที่ 4 ปี 2561 คดีล่อลวงหญิงสาวติดต่อทางเฟซบุ๊ก หลอกเหยื่อให้มาพบแล้วใช้ปืนจี้บังคับข่มขืนในโรงแรมม่านรูดพื้นที่ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ถูกจับพ้นโทษกลางปี 65 ครั้งที่ 5 วันที่ 10 เม.ย.66 คดีอาญาที่ 149/2566 สภ.ดอยสะเก็ด ข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำผิด และหน่วงเหนี่ยวกักขัง เหตุเกิดบริเวณสันเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาและอนุญาตให้ประกันตัวต่อสู้คดี เนื่องจากเข้ารับทราบข้อหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ล่าสุดครั้งที่ 6 วันที่ 29 เม.ย. ก่อคดีฆ่าข่มขืนเซลส์สาวขายรถยนต์
ต่อมาเวลา 09.00 น. นางสี (นามสมมติ) แม่ของเซลส์สาวผู้ตายพร้อมญาติเดินทางมาที่ สภ.สันทราย นำหัวหมูมาแก้บนที่บริเวณศาลท้าวมหาพรหมหน้าโรงพัก หลังเมื่อวันที่ 30 เม.ย. นางสีจุดธูปบนบานท้าวมหาพรหมไว้ว่า ขอให้พบลูกสาวและจับคนร้ายได้ นางสีเปิดเผยว่า หลังบนไว้เมื่อได้ตามหวังจึงมาแก้บน ถึงแม้ลูกสาวเสียชีวิต ลูกทำงานเป็นเซลส์ขายรถเป็นเสาหลักของครอบครัว อุปนิสัยดี ดูแลเทกแคร์ลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้ตกเป็นเป้าหมายของคนร้ายลวงไปฆ่า ขณะนี้ครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฝากถามผู้ต้องหาว่ามาก่อเหตุแบบนี้กับลูกสาว ทำไมจิตใจถึงโหดเหี้ยมเช่นนี้ ลูกสาวไปทำอะไรให้ ครอบครัวต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และต้องการให้ประหารชีวิตผู้ต้องหาให้ตายตกไปตามกัน เพราะถ้าหากติดคุกแล้วออกมาหวั่นว่าจะมาก่อเหตุกับคนอื่นซ้ำอีก
ต่อมาเวลา 15.00 น. แม่และสามีของ น.ส.เอ รวมทั้งญาติเดินทางไปรับศพ น.ส.เอที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราช สวดบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าบง ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ขณะเดียวกันญาติ น.ส.เออีกกลุ่มนิมนต์พระไปทำพิธีถอนดวงวิญญาณที่โรงแรมม่านรูดทั้ง 2 แห่ง เป็นจุดก่อเหตุฆ่าและนำศพไปซ่อนอำพรางไว้ บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า
ต่อมาเวลา 16.30 น. พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 พ.ต.อ.ดำเนิน กันอ่อง รอง ผบก.ภ. จ.เชียงใหม่ แถลงข่าวถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ พยานบุคคล พยานแวดล้อมต่างๆ ขณะนี้หลักฐานในคดีนี้ค่อนข้างจะสมบูรณ์ เหลือรอผลการพิสูจน์ศพจากแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลมหาราช เพื่อจะนำมาประกอบสำนวน คดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่โหดเหี้ยมจากการสืบสวนพบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาทำทีไปขอซื้อรถกับผู้ตาย วางแผนเตรียมเปิดโรงแรมในเขตพื้นที่ สภ.แม่โจ้ ไว้รอ หลอกผู้ตายมาขึ้นรถกระบะอ้างว่าจะไปกดเงินสด เมื่อสบโอกาสใช้มีดจี้ผู้ตายแล้วใช้เครื่องพันธนาการมัดมือผู้ตายไว้ไม่ให้ขัดขืน แล้วพาออกไปจากจุดที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาสารภาพว่า ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ผู้ตายร้องโวยวายใช้ค้อนทุบไปที่ศีรษะและใช้เชือกรัดคอจนเสียชีวิต แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เมื่อถามว่าผู้ต้องหามีอาการทางจิตหรือไม่ รอง ผบช.ภ.5 ตอบว่า ตรวจสอบแล้วไม่พบ น่าจะเป็นรสนิยมส่วนตัวที่ผู้ต้องหาชอบใช้ความรุนแรงถึงแม้จะเคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว แต่ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก ล่าสุดตำรวจพบหลักฐานเพิ่มคือผ้าสีเหลืองอยู่ในรถกระบะตู้ทึบ ที่ผู้ต้องหาใช้ยัดปาก ผู้ตาย และพบเมมโมรีการ์ดของกล้องหน้ารถจะนำไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป