ไม่เข็ด ตำรวจสอบประวัติพบ "ไอ้ณัฐ" ฆาตกรข่มขืนฆ่าเซลส์สาวขายรถยนต์ รสนิยมชอบผู้หญิงสวมแว่นตา และบังคับขืนใจ ก่อเหตุแล้ว 4 ครั้ง มาเกมครั้งที่ 5 พร้อมรับเตรียมการลวงไปล่วงละเมิดทางเพศ อ้างเหยื่อขัดขืนเลยลงมือฆ่า ขณะที่สามีน้องอ้อมและญาติ เดินทางมารับร่างที่ รพ.มหานครเชียงใหม่ เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 1 พ.ค. 66 นายอำนาจ เกษประเสริฐ สามีนางสาวเด่นนภา คุณยศยิ่ง หรือ น้องอ้อม เซลส์สาวขายรถยนต์ ที่ถูก นายณัฐพล ผันผดุงทรัพย์ ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืน ก่อนนำศพยัดท้ายรถเก๋งไปอำพรางไว้ในห้องน้ำม่านรูดโรงแรม บีแอน์บี ในตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มารับร่างน้องอ้อมออกจากแผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อนำไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ที่วัดป่าบง ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศก
ขณะที่ สภ.สันทราย พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 ได้เรียกตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ พร้อมตำรวจ หลังมีรายงานผลการสอบสวน ทำให้ทราบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศผู้อื่นต่อเนื่อง โดยผู้ต้องหาให้การกับพนักงานสอบสวนว่า วันเกิดเหตุ หลังจากขืนใจและฆ่าสาวเซลส์ขายรถแล้ว ยังวางแผนจะขืนใจพนักงานสาวของโรงแรมม่านรูด โดยทำทีอ้างว่าทีวีในห้องเสีย แต่พนักงานระวังตัว และบอกว่าได้ให้พนักงานผู้ชายเข้าไปดู ผู้ต้องหาจึงบอกยกเลิก ไม่ให้เข้ามา
จากการสอบปากคำ ทำให้ทราบด้วยว่าผู้ต้องหามีรสนิยมชอบหญิงสาวสวมเเว่นตา และชอบวิธีการบังคับขืนใจผู้อื่น โดยตำรวจได้ตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาเมื่อวานเย็นและวันนี้เช้า ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด แต่คนร้ายบอกว่าได้เสพมาหลายวันแล้ว
...
สำหรับ นายณัฐพล ผู้ต้องหา ก่อนที่จะมาก่อคดีครั้งนี้ เคยถูกดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2553 คดีอาญาที่ 550/2553 สน.ท่าพระ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราระหว่างคู่สมรส และคู่สมรสนั้นยังอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาฯ เหตุเกิดที่แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. มีการออกหมายจับและจับกุมตัวดำเนินคดีได้
ครั้งที่ 2 ปี 2556 ทำร้ายร่างกายพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 3 วันที่ 5 ต.ค. 2557 คดีอาญาที่ 2448/2557 ท้องที่ สน.บางมด ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ถูกออกหมายจับและจับกุมตัวดำเนินคดี
ครั้งที่ 3 ปี 2561 คดีล่อลวงหญิงสาว โดยใช้เฟซบุ๊กพบเหยื่อแล้วใช้อาวุธปืนจี้บังคับข่มขืนเหยื่อในโรงแรมม่านรูด พื้นที่ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ถูกจับพ้นโทษกลางปี 2565 และครั้งที่ 4 วันที่ 10 เมษายน คดีอาญาที่ 149/2566 สภ.ดอยสะเก็ด ข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำผิด, ข่มขืนกระทำชำเราฯ, กระทำอนาจารฯ และหน่วงเหนี่ยวกักขังฯ เหตุเกิดบริเวณสันเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาและอนุญาตให้ประกันตัวต่อสู้คดี เนื่องจากเข้ารับทราบข้อหา ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี
กระทั่งล่าสุดครั้งที่ 5 วันที่ 29 เมษายน 2566 ก่อคดีฆาตกรรมเซลส์สาวขายรถยนต์ในพื้นที่ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่
ส่วนตัว นายณัฐพล ผู้ต้องหานั้น ตำรวจยังไม่ได้นำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งคาดว่าจะนำตัวไปฝากขังพรุ่งนี้เนื่องจากมีอำนาจคุมตัวได้ 48 ชม
พล.ต.ต วีรชน บุญทวี รองผบช. ภ.5 เผยว่า คดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่โหดเหี้ยม เพราะจากการสืบสวนนั้นได้พบว่าก่อนเกิดเหตุนั้นผู้ต้องหาได้มีการติดต่อทำทีไปมาไปขอซื้อรถที่ผู้ตายทำงานอยู่ ในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาได้มีการตระเตรียมเปิดโรงแรมในเขต สภ.แม่โจ้ไว้รอ ซึงทางตำรวจได้สอบสวนพยานไว้หมดแล้วอีกทั้งยังได้พบเชือก สายเคเบิ้ลไทด์ ซึ่งผู้ต้อหาได้ตระเตรียม มาก่อนแล้ว ซึ่งพฤติกรรมที่ผู้ต้องหาใช้หลอกน้องอ้อมผู้ตายมาขึ้นรถยนต์ด้วยนั้น คืออ้างว่าจะมาซื้อรถและหลอกให้ขึ้นรถไปเพื่อจะกดเงินสด ก่อนที่จะใช้มีดจี้ผู้ตายแล้วใช้เครื่องพันธนาการมัดมือผู้ตายไว้ไม่ให้ขัดขืนแล้วพาออกไปจากจุดที่เกิดเหตุ
โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุจริง และที่ฆ่าผู้ตายเพราะหลังจากที่ล่วงละเมิดผู้ตายเสร็จแล้วผู้ตายโวยวายจึงได้ใช้ของแข็งทุบไปศีรษะ และใช้เชือกรัดคอจนเสียชีวิตแต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ
...
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหานั้นมีอาการทางจิตหรือไม่ รองผบช.ภ.5 กล่าวว่า จากการตรวจสอบแล้วไม่พบซึ่งน่าจะเป็นรสนิยมส่วนตัวที่ผู้ต้องหาชอบใช้ความรุนแรง ถึงแม้จะเคยถูกดำเนินคดีมาแล้วแต่ก็ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก ส่วนข้อหานั้นเบื้องต้นแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กักขังพาไปเพื่อการอนาจารโดยการใช้กำลังประทุษร้าย และเคลื่อนย้ายอำพรางซ่อนเร้นศพ ส่วนเพื่อนสาวทั้งสองรายนั้นจากที่สอบสวนและตรวจสอบโทรศัพท์นั้นยังไม่มีความเชื่อมโยงว่าช่วยเหลือผู้ต้องหาในการก่อเหตุ