ตำรวจไซเบอร์ถือหมายศาลดักตะครุบสาวแสบ มือปลอมแปลง เอกสารให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ล็อกตัวคาโบกี้รถไฟที่ชุมทางนครสวรรค์ สารภาพร่วมกับพวกอ้างเป็นตำรวจโรงพักเมืองสุราษฎร์ฯ หลอกเหยื่อมีส่วนพัวพันขบวนการค้ายาเสพติดและฟอกเงิน สั่งให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน “DSI ปลอดภัย” ก่อนดูดเงินเกลี้ยงบัญชี สูญร่วม 3.3 ล้านบาท

ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ว่า พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.คำภีร์ พรหมสนธิ รอง ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.พงศ์นรินทร์ เหล่าเขตกิจ ผกก.วิเคราะห์ข่าว บก.สอท.3 นำกำลังจับกุม น.ส.ปณิตา หรือมิ้น บุญประสงค์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 1 ต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย จ.อ่างทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 496/2566 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ในความผิดฐาน “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน และร่วมกันฟอกเงิน”

คดีนี้ สืบเนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ได้ร่วมกับพวกแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลอกลวงผู้เสียหายว่ามีคนนำเอาเอกสารผู้เสียหายปลอมแปลงเช่ารถยนต์และเกี่ยวข้องกับการขนย้ายยาเสพติดและฟอกเงิน ก่อนจะให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชัน “DSI ปลอดภัย” พร้อมส่งลิงก์มาให้ผู้เสียหายติดตั้งดาวน์โหลดแอปฯดังกล่าวในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย เพื่อตรวจสอบความบริสุทธิ์ของเส้นทางการเงินและล็อกบัญชีไม่ให้มีผู้ใดมาใช้ ระหว่างหลอกลวงได้วิดีโอคอลเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อและยอมทำตาม เมื่อผู้เสียหายติดตั้งแอปเสร็จเรียบร้อย พบภายหลังว่าเงินหายจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหายทั้ง 2 บัญชี รวมทั้งสิ้น 3,291,971.80 บาท

...

ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ น.ส.ปณิตา ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับ และติดตามจนทราบว่าผู้ต้องหาจะเดินทางมากับรถไฟเที่ยวล่องที่ 8 (เชียงใหม่-สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์) มุ่งหน้าเข้า กทม. วางแผนดักรอที่สถานีชุมทางนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ เพราะเป็นจุดที่ขบวนรถต้องจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร ตำรวจได้แสดงตัวจับกุม น.ส.ปณิตาได้คาโบกี้โดยสาร

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 15 มี.ค. สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับพวกก่อเหตุจริง ทำหน้าที่ฝ่ายเอกสาร ปลอมแปลงเอกสารต่างๆ ส่งไปหลอกลวงเหยื่อทางแอปพลิเคชันไลน์ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับการสมอ้าง ร่วมกับคนร้ายที่แต่งกายเครื่องแบบตำรวจ และวิดีโอคอลไลน์หลอกเหยื่อในขณะเดียวกัน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.3 ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป