อสส.สั่งฟ้อง “นอท กองสลากพลัส” พร้อมพวกรวม 3 คน คดีแรกข้อหาขายสลากเกินราคาและขายสลากให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี รวม 510 กรรมพลิกลิ้นจากให้การปฏิเสธชั้นพนักงานสอบสวนเป็นรับสารภาพชั้นศาล สั่งปรับตามกฎหมายทุกกรรมกว่า 2.6 ล้านบาท เปิดใจรับสารภาพเพื่อให้คดีจบๆไป เพราะยังต้องสู้อีกหลายคดี

ศาลตัดสินคดีแรกของกองสลากพลัสแล้ว เปิดเผยขึ้นที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มี.ค. พนักงานอัยการนัดหมายนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” พร้อมผู้บริหารบริษัทลอตเตอรี่ ออนไลน์ จำกัด และทนายความ มาฟังคำสั่งคดีข้อหาขายสลาก กินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และข้อหาขายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้แก่เยาวชนที่อายุไม่ถึง 20 ปี ผู้ต้องหาเดินทางมาพบอัยการคดีพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 1 ตามนัด เมื่อถึงเวลาตามฤกษ์นัดหมายพนักงานอัยการโดยนายศุภชัย เศวตกิตติกุล อัยการเชี่ยวชาญสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 1 ออกคำสั่งว่า พิจารณาแล้วมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหารวม 3 คน จากนั้นจึงนำคำฟ้องและผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือทันที

นายศุภชัย เศวตกิตติกุล เผยว่า วันนี้อัยการส่งฟ้องผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นอท กองสลากพลัส นิติบุคคล และกรรมการบริษัทลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด 2 ข้อหาคือ ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และขายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้แก่เยาวชนที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี จำนวน 510 กรรม ตามพยานที่สอบปากคำ 300 กว่าคน ขั้นตอนหลังจากนี้จะสอบคำให้การจำเลย หากจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจะสั่งปรับและสามารถจบคดีได้เร็ว แต่ถ้าจำเลยให้การปฏิเสธจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาล โดยจะนัดสอบคำให้การและสืบพยานในชั้นศาลต่อไป แต่ว่าคดีนี้มีพยานบุคคลจำนวนมาก อาจต้องใช้เวลาสืบพยานนานพอสมควร

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ตำรวจ บก.ปคบ.สรุปสำนวนคดีพร้อมความเห็นสมควรฟ้องนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” กับพวกรวม 3 คน จากการรวบรวมพยานทั่วประเทศกว่า 384 คน และตรวจพบรายการโอนเงินกว่า 4,000 รายการ พนักงานอัยการนัดหมายส่งฟ้องศาลวันนี้ เบื้องต้นนายนอทพูดแค่เพียงว่า “คดีอยู่ในศาลแล้ว พูดอะไรไม่ได้”

บ่ายวันเดียวกันที่ศาลแขวงพระนครเหนือ พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง 1 นำตัว นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” ผู้บริหารบริษัทลอตเตอรี่ ออนไลน์ จำกัด พร้อมพวกรวม 3 คนไปยื่นฟ้องคดีจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และขายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้กับเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี นายนอทสวมเสื้อคอกลมสีขาวเขียนคำว่า “เปลี่ยน” พร้อมชูสองนิ้วให้ผู้สนใจ หลังจากนั้นเข้าสู่กระบวนการในศาล

หลังจากนั้นนายพันธ์ธวัช ออกมาเปิดเผยว่า ตนยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากตอนนั้นยอมรับว่า ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในรูปแบบเก่า ไม่ได้คิดค่าบริการแยกออกจากค่าสลากกินแบ่งรัฐบาล มันมีทั้งรูปแบบใหม่และรูปแบบเก่าจึงตัดสินใจรับสารภาพ ศาลพิพากษาสั่งให้ปรับเป็นเงินจำนวน 2,672,000 บาท ที่ยอมรับเพื่อให้คดีจบๆ ไป ไม่อยากเสียเวลาทำมาหากินและจ่ายค่าปรับไปครบแล้ว ไม่งั้นเดินออกมาไม่ได้ ส่วนคดีที่สำนักงานกินแบ่งรัฐบาลดำเนินคดีตนที่ศาล จ.นนทบุรี เป็นการฟ้องคนละส่วนกัน เนื่องจากระยะเวลาที่สั่งฟ้องคิดค่าบริการรูปแบบใหม่แยกส่วนค่าบริการออกจากค่าสลากกินแบ่งรัฐบาลชัดเจน จึงยังต่อสู้คดีนั้นอยู่

“ส่วนสำนวนคดีของตำรวจที่สั่งฟ้องผมครั้งนี้ ถือว่าสำนวนอ่อนมาก เป็นคดีเก่าที่ตำรวจเคยเข้าตรวจสอบไปแล้วเมื่อปี 2564 กลับนำมารวบรวมเป็นพยานหลักฐานในคดีนี้ด้วย แถมไปไล่เคาะประตูบ้านลูกค้านำมาเป็นพยาน ในส่วนของการจะเปิดแพลตฟอร์มขายลอตเตอรี่ออนไลน์ใหม่หรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้อยู่ระหว่างต่อสู้อีกหลายคดี” นายนอทกล่าวแล้วเดินทางกลับทันที

สำหรับคดีนี้ พนักงานสอบสวน บก.ปคบ.รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ให้ตรวจสอบการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลของแพลตฟอร์มกองสลากพลัสว่า เข้าข่ายจำหน่ายเกินราคาหรือไม่ ต่อมาพบว่ามีพฤติการณ์ขายสลากเกินราคา 2 งวดคือ งวดวันที่ 16 มี.ค. และวันที่ 30 เม.ย.65 มีผู้ซื้อทั่วประเทศ 4,214 คน แต่ตำรวจตามได้และให้ความร่วมมือ 384 คน กระทำความผิดทั้งหมด 510 กรรม พนักงานสอบสวนดำเนินคดีนายพันธ์ธวัช กรรมการบริษัทลอตเตอรี่ ออนไลน์ จำกัด และนิติบุคคลบริษัทลอตเตอรี่ ออนไลน์ จำกัด หลังถูกดำเนินคดีนายพันธ์ธวัชให้การปฏิเสธชั้นพนักงานสอบสวน ก่อนมากลับคำให้การรับสารภาพในชั้นศาล