คดีจีนเทาพ่นพิษไม่เลิก คณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นดำเนินคดีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 107 นาย รวมทั้งนายตำรวจระดับนายพลหลายคนมีทั้งข้อหาเรียกรับผลประโยชน์และละเว้นปฏิบัติหน้าที่ รวม 8,000 กรรม สอบพยานรวม 446 ปาก เอกสารสำนวนกว่า 139,000 แผ่นส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว “นิวัติไชย เกษมมงคล” เลขาธิการ ป.ป.ช. ขึงขังรับสำนวนไว้พิจารณาดำเนินการ ด้าน “บิ๊กตู่” สั่งตรวจสอบข้อกฎหมาย ห้างซามาเนียนำสินค้าจีนมาขายตรงให้คนไทย ตัดเส้นทางทำมาหากินของพ่อค้าคนกลางไทยหรือไม่

กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตั้งคณะทำงานปราบปรามนายทุนจีนสีเทาที่เข้ามาหากินในประเทศไทยตั้งขบวนการผิดกฎหมาย โดยใช้คนไทยเป็นนอมินีบังหน้า เริ่มต้นตั้งแต่การเข้าจับกุมผับจินหลิง ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก สืบสาวไปถึงการออกวีซ่าขออยู่ต่อในราชอาณาจักรที่ออกโดยตำรวจ ตม. พบพิรุธว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก รวบรวมพยานหลักฐานพบเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)ถึง 107 นายเข้าข่ายถูกดำเนินคดี มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับนายพลเกี่ยวพันหลายนาย พฤติการณ์ให้การช่วยเหลือการอนุญาตขออยู่ต่อในราชอาณาจักรให้กลุ่มนายทุนจีนสีเทาและชาวต่างชาติ ใช้วิธีการสร้างหลักฐานเกี่ยวกับการเรียนภาษา หรือเป็นสมาชิกมูลนิธิและสมาคมต่างๆ

ความคืบหน้าจาก สภ.เวฬุวัน จ.ขอนแก่น เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 มี.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์การนำสำนวนการสอบสวนดำเนินคดีตำรวจ ตม. 107 นาย ของคณะพนักงานสอบสวน สภ.เวฬุวัน เพื่อเสนอเลขาธิการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ในสำนวนมีการสอบปากคำพยานไปถึง 446 ปาก มีเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีมากถึง 139,000 แผ่น คณะพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพิจารณาแล้ว เห็นควรดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั้ง 107 นาย ความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และสั่งฟ้อง 9 ใน 107 นาย เพิ่มเติมในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ

...

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั้งหมด และส่งมอบข้อมูลให้พนักงานสอบสวนแล้ว วันนี้คณะพนักงานสอบสวน สภ.เวฬุวัน สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องและรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้วและส่งสำนวนการสอบสวน ในการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพิจารณาแล้ว เห็นควรดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจำนวน 107 นาย ทั้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ และข้อหาเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ มีเอกสารมากถึง 139,000 แผ่น

“วันนี้มาสังเกตการณ์ดูแลความเรียบร้อยการนำเสนอต่อเลขาธิการ ป.ป.ช.เพื่อตรวจสอบเอกสารหลักฐานทั้งหมด และพิจารณาชี้มูลความผิดดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ถือว่าเป็นการบังคับใช้กฎหมายโดยเด็ดขาดเพื่อดำเนินการเจ้าหน้าที่ที่ใช้อำนาจทางกฎหมายในทางที่ผิด ช่วยเหลือกลุ่มทุนจีนสีเทาให้กระทำผิดในราชอาณาจักร เพื่อเป็นการเรียกศรัทธาและสร้างความเชื่อมั่นให้ตำรวจมากยิ่งขึ้น” รอง ผบ.ตร.กล่าว

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. เผยว่า เมื่อเวลา 14.00 น. หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เวฬุวัน จ.ขอนแก่น นำโดย พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศฝร.บช.น. นำสำนวนการสอบสวนกรณีกล่าวหา พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี อดีต ผบก.ตม.4 กับพวกรวม 107 นาย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมืองภาค 4 ส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณา กรณีเปลี่ยนแปลงการลงตราวีซ่า เป็นเหตุให้คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรได้นานขึ้น ทำให้คนต่างด้าวรวมกลุ่มกันก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ กระทบต่อความมั่นคงประเทศ สำนวนที่ส่งมามี 8,000 กรรม เป็นเอกสาร 139,000 แผ่น ใช้รถขนมา 7 คัน ป.ป.ช.จะตรวจสอบว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่หรือไม่

“คดีนี้เกี่ยวเนื่องจากการขยายผลคดีนายตู้ห่าว (นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์) ที่มีการออกใบอนุญาตให้คนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยนานผิดปกติ ทั้งที่ปกติต้องประทับตราวีซ่าท่องเที่ยวแต่อนุญาตให้อยู่นานขึ้น อ้างว่าเป็นผู้มาปฏิบัติงานในมูลนิธิและสถานศึกษาเอกชน เพื่อยืดอายุการอยู่ในประเทศไทยให้นานขึ้น กลุ่มคนพวกนี้เมื่อได้รับอนุญาตให้อยู่ยาวขึ้นก็มาตั้งเป็นแก๊งหรือก่ออาชญากรรม” เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าว

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โจมตีกรณีที่รัฐบาลให้ “ซามาเนีย พลาซ่า” Samanea Plaza Thailand ศูนย์ค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่นำสินค้าจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนมาจำหน่ายโดยตรงในประเทศไทย ตัดโอกาสพ่อค้าแม่ค้าคนกลางที่เป็นคนไทยว่า ตนให้ตรวจสอบหมด เขากำลังตรวจสอบอยู่ ถ้าผิดกฎหมายก็ปิดหมด ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนตัดทางทำมาหากินของพ่อค้าคนไทย พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ตอนนี้ตรวจสอบอยู่ หลังสั่งไปแล้วให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย ถ้าไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ปิดหมด เรามีกฎหมายทุกตัว ตอนนี้มีเทคโนโลยีมีมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีในระบบการเงินเยอะ วันหน้าต้องพยายามติดตามสิ่งเหล่านี้ให้ทันต่อสถานการณ์ ตนย้ำในที่ประชุมตลอด หน่วยงานไหนเกี่ยวข้องต้องแก้ปัญหาให้ได้ แต่ก่อนการหลอกลวงออนไลน์ไม่มี วันนี้นายกฯบอกว่าต้องกวาดล้างให้หมดทุกเรื่อง ฉะนั้นใครที่เกี่ยวข้องต้องทำตรงนั้นให้เรียบร้อย เข้าใจหรือไม่