หนุ่มลาวก่อเหตุตบตี ข่มขืน อดีตเมียสะบักสะบอม ก่อนปล่อยตัวกลับ จากนั้นไปลงมือกับเด็กหญิงวัย 12 ปีต่อ บาดเจ็บถึงขั้นต้องส่งโรงพยาบาล ตำรวจพยายามล่าตัว แต่พบผู้ก่อเหตุปลิดชีพตัวเองไปแล้ว
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 6 มี.ค. 2566 ร.ต.อ.ณัฐพงษ์ บุตรยี่ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้ง เกิดเหตุมีผู้ผูกคอเสียชีวิตอยู่ในห้องพักคนงานเลขที่ 844/1 หมู่ 15 ซอย 40 หมู่บ้านไทยประกัน ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้ง จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู แพทย์เวร รพ.บางเสาธง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.สมุทรปราการ ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นชายทราบชื่อ นายคำพอดี ดวงจำปา อายุ 48 ปี สัญชาติลาว ก่อนไปถึงเพื่อนบ้านได้ช่วยกันตัดเชือกนำร่างนายคำพอดี ลงมานอนบนพื้นห้อง ในสภาพนอนหงายสวมเสื้อแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงยีนส์ทับกางเกงบ็อกเซอร์ ไม่สวมรองเท้า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบลำคอมีรอยช้ำจากการถูกเชือกรัด ขื่อเหล็กกลางห้องมีเชือกไนลอนสีแดง ที่ใช้ทำอัตวินิบาตกรรม ถูกตัดขาดออกไปบางส่วนตอนนำร่างลงมา ในห้องไม่พบร่องรอยของการต่อสู้หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบประวัติของนาย คำพอดี พบว่า มี 2 คดีติดตัวอยู่ คดีแรก ช่วงดึกของวันที่ 5 มี.ค. ไปก่อเหตุบังคับข่มขืนและทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาที่เลิกกันไปนานแล้ว โดยอดีตภรรยาได้แจ้งความไว้ อยู่ระหว่างตำรวจตามจับกุมตัว ส่วนคดีที่ 2 ไปก่อเหตุบังคับข่มขืนเด็กหญิงสัญชาติเมียนมา อายุ 12 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียง ขณะนี้ เด็กยังต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และผู้ปกครองได้ไปแจ้งความไว้แล้ว ที่ สภ.บางเสาธง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ แต่เมื่อช่วงค่ำ เจ้าของบ้านที่ให้พัก มาพบผู้ก่อเหตุผูกคอตายหนีความผิดแล้ว
...
นางจรวย อายุ 60 ปี ป้าเจ้าของบ้าน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ นายคำพอดี พร้อมลูกเมีย เคยทำงานอยู่กับตน หลังจากที่หย่าขาดกับเมียก็แยกกันอยู่และเดินทางกลับประเทศลาวเพื่อไปทำพาสปอร์ตแล้วกลับมาใหม่ เมื่อกลับมาครั้งนี้อยู่ตัวคนเดียว รายได้ยังไม่พอกับค่าใช้จ่าย จึงได้มาขออาศัยอยู่ในห้องที่เกิดเหตุชั่วคราว และสัญญาว่าหากมีรายได้เพียงพอจะขอเช่าห้องพักเหมือนสมัยก่อน ตนเห็นใจ จึงยอมให้เข้าพัก และเมื่อช่วงเย็น ตนได้ไปที่ร้านค้าเพื่อเปลี่ยนให้สามีกลับมาอาบน้ำพักผ่อน สักครู่ สามีโทรไปตามให้กลับมา แจ้งว่านาย คำพอดี ได้ผูกคอเสียชีวิตอยู่ในห้องพักแล้ว ส่วนสาเหตุของการตัดสินใจผูกคอตาย คาดว่า น่าจะเกิดจากความเครียดที่ได้ไปก่อเหตุไว้ถึง 2 คดีด้วยกัน
ส่วนนายศรีนวล อายุ 58 ปี สามีป้าเจ้าของบ้าน กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็น หลังจากที่ภรรยา ไปเปลี่ยนให้กลับบ้านมาพักผ่อน ตนได้เดินมาส่องดูที่ช่องประตูห้องเกิดเหตุ เห็นนายคำพอดี (ผู้เสียชีวิต) ได้ใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิต จึงได้รีบโทรตามภรรยาให้กลับมาจัดการ ส่วนเรื่องอื่นๆ ตนไม่รู้
ด้านนายสมดี วิริยสันติ อายุ 60 ปี กล่าวว่า ตนได้เข้ามาตามหารถจักรยานยนต์ที่ นายคำพอดี (ผู้เสียชีวิต) ได้ขอยืมมาใช้ เมื่อมาถึง เจ้าของบ้านพักบอกช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้หน่อย เพราะนายคำพอดีผูกคอตัวเอง ตนจึงโทรแจ้ง 191 และได้เป็นคนตัดเชือกตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ที่สั่งให้ทำ เพราะหากไม่ทำอาจจะมีความผิด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายอาจกลัวความผิดที่ไปก่อเหตุไว้ถึง 2 คดีด้วยกัน เพราะมีอัตราโทษสูง โดยเฉพาะคดีข่มขืนเด็กหญิงชาวเมียนมา วัย 12 ปี จึงตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง หลังจากเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ สอบปากคำผู้เห็นเหตุการณ์ จึงได้มอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งไปชันสูตรถึงสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.รามาธิบดีจักรี นฤบดินทร์ และจะติดต่อญาติ ให้เข้ามาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป