ตำรวจ ปส.ตามจับเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ "ม้ง" ลำเลียงขนยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด จากเชียงราย มาส่งที่กรุงเทพฯ และย่านปริมณฑล เตรียมขยายผลหาตัวการใหญ่มาดำเนินคดีและยึดทรัพย์ทั้งขบวนการ

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม.) ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส.สั่งการให้ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส.บช.ปส., นำกำลังสืบสวนจับกุมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติด ประกอบด้วย นายเนติพงษ์ แซ่ว้าง อายุ 22 ปี นายนพเดช แซ่ซ้ง อายุ 28 ปี นายเอกภพ แซ่เฮ่อ อายุ 35 ปี ทั้ง 3 รายเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง จังหวัดตาก และนายจักรกฤษณ์ สวยรักษ์ อายุ 53 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน ผค 394 พิษณุโลก ซึ่งใช้ซุกซ่อนยาเสพติด และรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน กย 2637 ลำปาง รถเก๋ง บีเอ็มดับเบิลยู ทะเบียน วพ 3569 กรุงเทพมหานคร

จับได้ที่บริเวณสถานีบริการปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนกำแพงเพชร-สุโขทัย ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร

พล.ต.ท.สรายุทธ เปิดเผยว่า ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส.สืบทราบว่า มีกลุ่มชาติพันธุ์ เผ่าม้ง ใน อ.อุ้มผาง และพบพระ จ.ตาก ใช้รถกระบะ และรถเก๋ง คอยลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงราย ไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงเป็นประจำ จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์จนพบรถกระบะ อีซูซุ และรถเก๋งฮอนด้า ลักษณะตรงกับแนวทางการสืบสวน จึงได้สะกดรอยติดตามจนกระทั่งรถทั้ง 2 คัน เข้าไปจอดในปั๊มน้ำมัน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบในรถกระบะ อีซูซุ มีนายเนติพงษ์ นายนพเดช และนายเอกภพ อยู่ในรถ ตรวจค้นพบกระเป๋าผ้า 16 ใบ บรรจุยาบ้ากระเป๋าละ 1 แสนเม็ด จึงได้จับกุมตัวพร้อมของกลาง

...

ผบช.ปส.กล่าวต่อว่า จากนั้นได้ขยายผลจับกุมเครือข่ายเพิ่มได้อีก 1 รายคือ นายจักรกฤษณ์ ชาว จ.ลพบุรี ที่ลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาสามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี พร้อมรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู ทะเบียน วพ 3569 กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือนายทรงพล ชมชื่น อาศัยช่วงชุลมุนขับรถเก๋ง หลบหนีไปได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมต่อไป

เบื้องต้นแจ้งข้อหาทั้งหมด ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี จำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อันเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง ของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน นำตัวส่ง บช.ปส.ดำเนินคดี พร้อมขยายผลของเครือข่ายถึงตัวการใหญ่ระดับสั่งการต่อไป.