คอมมานโด ตามรวบ "2 คดีหื่น" คดีแรกจับอดีตหลวงพี่ ลวง ด.ญ.วัย 12 ลวนลามหลังโบสถ์ ขณะบวชเป็นพระ ฉุนถูกบอกเลิก ทวงเงิน 1,500 คืนจากเด็ก จนเกิดเรื่องฉาว ส่วนอีกคดี ตำรวจตามซิว "ช่างแอร์ในตำนาน" หลังก่อเหตุย่องลักหลับเมียเพื่อน ฉวยโอกาสตอนเมาหนัก เผลอหลับไม่ได้สติ
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.65 พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปพ.สั่งการ พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.1 บก.ปพ. พ.ต.ต.จตุพร ติกแก้ว สว.กก.1 บก.ปพ. นำกำลังจับกุม นายวิชิต หรือสอ หรือพระสอ ตามบุญ อายุ 40 ปี ตามหมายจับศาล จ.ศรีสะเกษ ที่ จ.123/2557 ลงวันที่ 8 พ.ค.57 ข้อหา "พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี และกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี" โดยจับกุมได้บริเวณข้างกระท่อมแห่งหนึ่ง ไม่มีเลขที่ ในพื้นที่หมู่ 11 ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อปี 57 ขณะนั้น นายวิชิต ยังบวชเป็นพระอยู่ที่วัดบ้านหนองแวง ต.โพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ระหว่างนั้นได้ทำทีเข้าไปตีสนิทกับ ด.ญ.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ในเชิงชู้สาว ก่อนโทรศัพท์หลอกล่อให้มาเจอกันที่ข้างโบสถ์หลังเลิกเรียน เมื่อ ด.ญ.น้ำ มาถึงถูกผู้ต้องหาลวนลามอนาจารรวมกว่า 7 ครั้ง ทุกครั้งจะให้เงินเด็กหญิงครั้งละ 100-200 บาท ต่อมาเด็กบอกเลิกทำให้ผู้ต้องหาไม่พอใจ ขอเงินที่ให้ไปคืนทั้งหมด จำนวน 1,500 บาท จนทำให้มีปากเสียงกัน กระทั่งผู้ปกครองของ ด.ญ.น้ำ ทราบเรื่อง จึงพาลูกเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.โพนขวา จ.ศรีษะเกษ จนศาลออกหมายจับไว้ กระทั่งตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายวิชิต ให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง สภ.โพนเขวา เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
...
ส่วนอีกคดี พ.ต.ต.จตุพร ติกแก้ว สว.กก.1 บก.ปพ.นำกำลังจับกุม นายจตุพล เอี่ยมอำพะวัน อายุ 39 ปี ตามหมายจับศาล จ.เพชรบุรี ที่ 143/2562 ลงวันที่ 24 เม.ย.62 ข้อหา "บุกรุกเคหสถานของผู้อื่นในเวลากลางคืน และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้" โดยถูกจับกุมตัวได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่าน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 31 มี.ค.62 น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี พร้อมกับสามีและกลุ่มเพื่อน รวมทั้ง นายจตุพล (ผู้ต้องหา) และภรรยาได้ไปเที่ยวดื่มกินและชมคอนเสิร์ตในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จนเกือบจะถึงเวลาเที่ยงคืน น.ส.เอ๋ ดื่มเบียร์เยอะจนมีอาการเมาจึงให้เพื่อนขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่ห้องพัก แล้วเผลอหลับไปโดยไม่รู้สึกตัว มารู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงสามีของตัวเอง ตะโกนเอะอะโวยวายอยู่ภายในห้อง เรื่อง นายจตุพร (ผู้ต้องหา) ฉวยโอกาศแอบกลับเข้ามาภายในห้อง แล้วย่องเข้ามาลักหลับขณะที่ น.ส.เอ๋ เมาหลับจนไม่รู้สึกตัว ด้วยความกลัวว่าเรื่องจะบานปลาย ผู้ต้องหาเลยรีบเดินหนีออกจากห้องไปก่อน
ต่อมา น.ส.เอ๋ ได้โทรไปบอกภรรยาของผู้ต้องหา ทำให้ทั้ง 2 เกิดมีปากเสียงกันขึ้น นอกจากนี้ภรรยาของผู้ต้องหา ยังโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนมีการเชิญตัวทั้งหมดมาเจรจากันที่โรงพัก ขณะนั้นผู้เสียหายไม่อยากให้เกิดเรื่องใหญ่โต จึงยังไม่ประสงค์ที่จะเอาความ และต่างแยกย้ายกันไป
แต่หลังจากผู้เสียหายกลับมาปรึกษากับครอบครัว รวมทั้งยังทราบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาก่อน เลยกลัวว่าจะย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ชะอำ เมื่อผู้ต้องหารู้ตัวจึงหลบหนีมาทำงานเป็นช่างแอร์ ที่ กทม. โดยกำลังไปล้างแอร์ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่ง สภ.ชะอำ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป