คณะผู้ตรวจการฯ มหาดไทย เดินทางมาตรวจสอบคดีรังนกกับ ผู้ว่าฯ พัทลุงในฐานะ ปธ.บอร์ดรังนก ตามที่มีผู้ร้องแล้ว ขณะที่ ประชาชนยังหวังจะเห็นแถว 4 ถูกดำเนินคดี หลัง ดีเอสไอ และ ป.ป.ท.เข้ามาร่วมสอบ
จากกรณี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการกองอุทธรณ์ (อธ.) หัวหน้าชุดสอบสวนในคดีรังนกของ สตช. และ พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทน์ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง หน.ชุดสอบสวนของ ภ.จว.พัทลุง ร่วมกับ พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เร่งคลี่คลายคดีรังนก จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 38 ราย ในขณะที่ทางชุดสอบสวนของ สตช.ได้เดินทางไปคลี่คลายคดีสำคัญในจังหวัดแห่งหนึ่ง ทำให้การสอบสวนต้องหยุดชะงักลง คาดว่าจะสามารถขับเคลื่อนคดีดังกล่าวได้อีกครั้งหนึ่งในปลายเดือน พ.ย.64 นี้ ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ นายเกลื่อม พูลสง ประธานกลุ่มพิทักษ์ผลประโยชน์ประชาชนจังหวัดพัทลุงและคณะ ได้ยื่นหนังสือไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง การปฏิบัติหน้าที่ของ นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ในฐานะประธาน คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ว่ามีการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์หรือไม่ เนื่องจากมีการขโมยรังนกเป็นจำนวนมาก ในขณะที่พันธุ์นกก็ถูกทำลายล้างเป็นจำนวนมากเช่นกัน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ย้าย ผวจ.พัทลุง ออกนอกพื้นที่ หากไม่พบความผิดก็ให้ย้ายกลับมาดำรงตำแหน่งเดิม
อย่างไรก็ตาม เมื่อตอนสายวันที่ 18 พ.ย.64 ที่ผ่านมา นายสุทธิพงศ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงโดยปกปิดเรื่องดังกล่าวเป็นความลับ ซึ่งคณะดังกล่าวได้เข้าสอบปากคำ ผวจ.พัทลุง บนห้องทำงานบนศาลากลาง และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีรังนกอีกหลายราย โดยคณะดังกล่าวได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ เมื่อตอนเย็นวันที่ 19 พ.ย.64 ที่ผ่านมา ส่วนผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวจะเป็นอย่างไร เป็นสิ่งที่ชาวบ้านต่างจับตามอง
...
แหล่งข่าวจากทางตำรวจ ให้ข้อมูลว่า จากการที่ประชาชนทั้งในและต่างจังหวัดอยากจะเห็นผู้ต้องหาในแถวที่ 4 ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และผู้สั่งการให้มีการลักรังนกนั้นคงยากมาก เนื่องจากผู้ต้องหาในแถวที่ 1-3 ที่เป็น จนท.รัฐ บางรายให้การปฏิเสธและไม่ซัดทอดผู้สั่งการฯ ทำให้การสอบสวนในคดีดังกล่าวขาดพยานหลักฐานที่สำคัญ ที่นำไปสู่การขยายผลไปยังกลุ่มผู้ต้องหาในกลุ่มที่ 4 ได้ แต่ก็ยังมีความหวังจากการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอ และ ป.ป.ท. ที่จับมือร่วมกันในการคลี่คลายคดีดังกล่าว โดยเฉพาะดีเอสไอนั้น ก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลทางลับไว้หลายชิ้นแล้ว อาทิ คลิปเสียงการสนทนาของใครบางคน เส้นทางการเงินของผู้ต้องสงสัยในแถวที่ 4 แต่การดำเนินการดังกล่าวนี้จะใช้ความรวดเร็วไม่ได้ ทุกๆ อย่างจะมีการดำเนินการไปตามระเบียบกฎหมาย ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าถึงแม้ว่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยในแถวที่ 4 จะหลุดพ้นการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ แต่คาดว่าน่าจะไม่พ้นการถูกดำเนินการตามกฎหมายของดีเอสไอ และ ป.ป.ท.
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ นายเกลื่อม พูลสง ประธานกลุ่มพิทักษ์ฯ ที่เส้นโลหิตในสมองแตกในขณะเข้าร่วมการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการปกครอง กรุงเทพฯ จนต้องเข้าผ่าตัดสมอง ณ รพ.วชิรพยาบาล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 14 ต.ค.64 นั้น ในขณะนี้อาการของนายเกลื่อม มีอาการดีขึ้น ซึ่ง นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง ได้นำตัวมารักษาตัวต่อที่ โรงพยาบาลพัทลุงแล้ว แต่ทาง รพ.พัทลุง ยังไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมอาการ ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.